ผลถกม็อบนครฯยอมไปกทม.ย้ำขอ120บ.ธวัชปัดกักตัว
การเจราจาระหว่าง ''ธวัช บุญเฟื่อง'' และแกนนำม็อบยางนครศรีธรรมราช ยัน ขอราคา 120 บาท และยอมบินไป กทม. เพื่อไปเจรจาอีกรอบ วันนี้ ด้าน ''ยุคล'' ระบุ รัฐบาลไม่ปรับขึ้นราคายาง 92 บาท ย้ำ ไม่แทรกแซงกลไกตลาด จ่อควง กิตติรัตน์ ลงพื้นที่เจรจาเอง
ผลการเจรจา ระหว่าง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับ ตัวแทน เกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.นครศรีธรรมราช โดยตัวแทนเกษตรกร ได้ยื่นข้อเรียกร้อง ขอรับประกันราคายางพาราแผ่นดิบชนิด 3 ราคา 120 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาปาล์มน้ำมัน 7 บาทต่อกิโลกรัม โดย พล.ต.ต.ธวัช ได้เสนอ ให้ตัวแทนเกษตรกร ขึ้นเครื่องบินไปคุยกับ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้ง นายกิติตรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อชี้แจงปัญหาที่เกษตรกรได้รับและแนวทางแก้ปัญหา หรือข้อเรียกร้องต่าง ๆ เพราะจะได้รับรู้ถึงผู้มีส่วนรับผิดชอบโดยตรง โดย พล.ต.ต.ธวัช รับประกันความปลอดภัย และจะพากลับมาส่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ทันที หลังเจรจาแล้วเสร็จ
โดย แกนนำเกษตรกร ได้ขอหารือกันเป็นการภายใน 20 นาที จนได้ข้อสรุปว่า ยินดีที่จะเดินทางไปพูดคุยที่กรุงเทพ แต่หากไม่ได้ตามข้อเสนอที่เรียกร้องไปจะกลับมายกระดับการชุมนุมทันที
'ธวัช'เตรียมรับแกนนำม็อบยางถก3รองนายกฯ
พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเจรจากับ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ว่าการอำเภอร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ตนเดินทางมาในฐานะผู้ประสานงาน เพื่อรับข้อเสนอไป รายงานต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมกันนี้ ตนได้เชิญตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ไปพูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรี 3 ท่าน ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ดูแลเรื่องการคลัง, นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ที่ดูงานด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่ดูแลด้านความมั่นคง ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมพูดคุย และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับฟังปัญหาของเกษตรกรชาวสวนยางโดยตรง ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ เพื่อแสดงความจริงใจของรัฐบาลว่า อยากจะเร่งแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธวัช ได้ประสานเครื่องบินฟ็อกซ์ ของกองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มารับกลุ่มเกษตรกร ที่สนามบิน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร โดย นายกิตติรัตน์ ได้เตรียมห้องประชุมที่ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อพูดคุยกับตัวแทนทั้งหมดด้วย
ม็อบยาง โค-อ๊อป ปักหลักปิดถนนสาย 417
สถานการณ์การชุมนุมปิดถนนของเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนย้ายจากหน้าสหกรณ์สุราษฎร์ธานี ไปปักหลักชุมนุมปิดถนนสาย 417 บริเวณทางแยกจากสาย 41 จะเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมเปิดเวทีปราศรัยบนรถยนต์กระบะติดเครื่องขยายเสียง กล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งยึงคงตรึงกำลังบริเวณด้านหน้าสนามบินเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในสนามบินได้และผู้ใช้บริการสนามบินยังสามารถเข้า-ออกได้ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนได้กระจายตัวกันอยู่บริเวณด้านหน้าสนามบิน สำหรับเส้นทางในการเข้าสู่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถใช้เส้นทางเลี่ยงได้หลายเส้นทาง โดยขาล่องสามารถเลี้ยวซ้ายเข้า อ.ไชยา หรือ อ.ท่าฉาง โดยใช้เส้นทางระหว่างอำเภอเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ได้ ส่วนขาขึ้นสามารถใช้เส้นทางเข้า อ.พุนพิน และเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี ได้ เนื่องจาก ที่หน้าสหกรณ์สุราษฎร์ธานี เปิดเส้นทางได้แล้ว และยังมีถนนสายรองระหว่างอำเภอที่สามารถใช้ทดแทนขึ้นทางสายหลักได้
20 แกนนำม็อบยางขึ้นเครื่องเข้า กทม.แล้ว
ภายหลังการเจรจาร่วมกันระหว่าง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับ นายเอียด เส้งเอียด ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน ล่าสุดเครื่องบินจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มารับ นายเอียด พร้อมกับแกนนำจากจุดชุมนุมในพื้นที่ อ.ชะอวด อ.ท่าศาลา และบริเวณแยกหนองดี อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช รวม 20 คน เพื่อเจรจาโดยตรงกับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ซึ่งจะถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 17.30 น. โดย นายเอียด ระบุว่า เหตุผลที่ต้องยอมเดินทางมากรุงเทพฯ นั้น เพื่อต้องการคุยกับรองนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง ก่อนที่จะนำคำตอบมาแถลงกับกลุ่มเกษตรกรต่อไป
'กิตติรัตน์' ยัน รัฐจริงใจคุยม็อบยางวันนี้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวยืนยันว่า ทางรัฐบาลมีความจริงใจในการร่วมเจรจาเพื่อหาทางออก สำหรับการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา พร้อมทั้งได้รับฟังข้อเรียกร้องของเกษตรกรอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการตั้งเงื่อนไข และเชื่อว่าการหารือจะทำให้เกิดผลดี ต่อการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยหากได้ข้อสรุปร่วมกันในวันนี้จะนำผลการหารือในครั้งนี้ เข้าเสนอต่อ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ หรือ กนย. ต่อไป เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงาน
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า หลังจากนี้จะไม่มีการยกระดับการชุมนุมขึ้นแม้ว่าในขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเตรียมปิดถนนเส้นทางสนามบิน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วก็ตาม เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายต้องการให้เกิดข้อสรุปร่วมกัน
----------------------------------
ไร้ยุติ!ม็อบสุราษฎร์ขอ92บ.ธวัชรับเงื่อน ไข-ถกนครศรีฯต่อ
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=477285