"เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" เอาผิดแบงก์ ปล่อยเมียขนทรัพย์สินกว่า 60 ล้าน
(4 ก.ย.) เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ หรือ นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ได้เข้าลงบันทึกประจำวัน ระบุว่าถูกภรรยาขนทรัพย์สินในตู้นิรภัย ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล 3 โดยในวันนี้จะทำการแจ้งความดำเนินคดีต่อธนาคาร เนื่องจากปล่อยให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่คู่สัญญากับธนาคารนำทรัพย์สินออกไป และยังไม่สามารถติดตามทรัพย์สินคืนมาได้
เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนถูกจับกุม เนื่องจาก นางสาวณัธวดี ภู่เจริญยุทธ ภรรยา ได้แจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกายและเสพยาเสพติด โดยในขณะที่ถูกฝากขังทนายพยายามทำเรื่องประกันตัว แต่ภรรยาก็ได้คัดค้านการประกันมาโดยตลอด แต่ล่าสุดศาลเห็นว่าผลตรวจปัสสาวะทั้ง 6 ครั้ง ไม่พบสารเสพติด ในวันที่ 19 สิงหาคม จึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยที่มารดาของตนเองที่เป็นพยานร่วมถอนตัวจากคดีนี้ไปแล้ว
หลังได้รับการประกันตัว ก็ได้เข้าไปที่ธนาคารเพื่อไปตรวจดูทรัพย์สินที่ฝากไว้ในตู้นิรภัยของธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล 3 แต่ทรัพย์สินรวมมูลค่า 60 ล้านบาทที่ฝากเอาไว้หายไป มีทั้งเครื่องเพชร พระเครื่อง พระเลี่ยมทอง และสร้อยคอทองคำ เหลือเพียงแค่พระเครื่องแค่ไม่กี่องค์ จึงได้ติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดและพบว่า ในวันที่ 18 กรกฎาคม ภรรยาพร้อมญาติอีกคนเดินทางมายังธนาคาร และได้เข้าไปเอาทรัพย์ดังกล่าวจากตู้นิรภัยโดยที่ภรรยาไม่ต้องเซ็นเอกสารใด ๆ เลย ทั้งที่มีข้อตกลงกับทางธนาคารว่า ผู้ที่จะเปิดตู้เซฟได้มีตนเองเพียงคนเดียว โดยจะต้องได้รับการลงนามจากตนเองก่อน
หลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ได้เดินทางไปขอขมาครอบครัวของภรรยาและอยากเจอหน้าลูก แต่หลังจากที่ตนเข้าไปพบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็โทรมาหา และห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานในคดี
ทั้งนี้ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ได้ติดต่อไปยังภรรยาเพื่อสอบถามเรื่องนี้แล้ว ซึ่งก็ได้คำตอบที่ไม่ชัดเจน ในวันนี้จะดำเนินการแจ้งความกับทางธนาคาร โดยก่อนหน้านี้ธนาคารก็ได้ยอมรับความผิดพลาด แต่ก็ยังไม่เห็นมีการติดตามใด ๆ และตนก็ยังไม่ได้ทรัพย์สินคืน ซึ่งหลักฐานก็มีชัดเจนพอที่จะเอาผิดธนาคารได้แล้วเพราะว่า ภรรยาเป็นคนเข้าไปที่ธนาคารดังกล่าว มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร และนำทรัพย์สินออกไปได้ ทั้งที่ตนระบุในเงื่อนไขชัดเจนแล้วว่า คนที่จะเปิดตู้นิรภัยได้นั้นต้องใช้ลายเซ็นตนเพียงคนเดียว บุคคลอื่นไม่สามารถดำเนินการแทนได้
อย่างไรก็ตาม เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ภรรยาเข้าไปเอาทรัพย์สินนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าจะมีจุดประสงค์อะไร แต่คาดว่าน่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะมีบางกลุ่มที่หวังในทรัพย์สิน และต้องการดิสเครดิต ทั้งยังตั้งข้อสงสัยอีกว่าทำไมธนาคารจึงยอมให้ผู้อื่นเข้าไปนำทรัพย์สินของตนออกมาโดยง่าย
(ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้)