อัยการสั่งฟ้องแก๊งอุ้มฆ่าเอกยุทธ 7 ข้อหาหนัก

อัยการสั่งฟ้องแก๊งอุ้มฆ่าเอกยุทธ 7 ข้อหาหนัก

อัยการสั่งฟ้องแก๊งอุ้มฆ่าเอกยุทธ 7 ข้อหาหนัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

4 ก.ย. - อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง บอล สันติภาพ กับพวกรวม 4 คน แก๊งอุ้มฆ่าเอกยุทธ อัญชันบุตร 7 ข้อหา ขณะที่พ่อ-แม่นายสันติภาพถูกแจ้งข้อหารับของโจร พร้อมคัดค้านการประกันตัว

ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เปิดเผยว่า พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นายสันติภาพ เพ็งด้วง นายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร นายชวลิต วุ่นชุม และ นายทิวากร เกื้อทอง ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ในความผิดฐาน

1. ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

2. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

3. ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดและให้ทำเอกสารสิทธิ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธ จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการ ไม่กระทำการ จำยอมต่อสิ่งนั้น และทำเอกสารสิทธิ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นถึงแก่ความตาย

4. ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย

5. ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

6. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอนุญาตให้ผู้อื่นมี และไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

7. ร่วมกันพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ที่ต้องติดตัวไปในเมือง และไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว พกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งให้ร่วมกันคืน หรือชดใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนอีก 1,741,970 บาท แก่ผู้เสียหาย

นอกจากนี้ อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องจ่าสิบเอกอิทธิพล และนางจิตอำไพ เพ็งด้วง พ่อ-แม่ของนายสันติภาพ ในข้อหาร่วมกันรับของโจรที่ได้มาจากการกระทำผิด ฐานปล้นทรัพย์หรือชิงทรัพย์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว

ทั้งนี้ อัยการได้พิจารณาคดีดังกล่าวไปตามหลักฐานที่พนักงานสอบสวนระบุว่า ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าเท่านั้น ซึ่งในสำนวนยังไม่มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงการฆาตกรรม แต่ยอมรับว่าหากในอนาคตมีพยานหลักฐานใหม่อาจนำเข้าพิจารณาได้ นอกจากนี้ อัยการได้พิจารณาหนังสือของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว แต่หนังสือดังกล่าวไม่มีผลต่อการพิจารณาสั่งคดี ทางอัยการจึงส่งหนังสือดังกล่าวไปให้พนักงานสอบสวนเพื่อให้พิจารณาว่ามีพยานหลักฐานในคดีนี้เพิ่มเติมหรือไม่ - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook