ถาวรเล็งยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หากผ่านแก้ ไข รธน. ม.5
ส.ส.ประชาธิปัตย์ จ่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากที่ประชุมร่วมรัฐสภา โหวตผ่านร่างแก้ไข รธน. มาตรา 5คุณสมบัติ ส.ว. ลั่น ไม่ยอมพร้อมยื้อเวลาถึงที่สุด ล่าสุด มาตรา 5 ลงมติผ่านฉลุย 316 ต่อ 3
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแน่ หากที่ประชุมร่วมรัฐสภา โหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 5 เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา พร้อมเชื่อว่า มาตราดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเนื้อหาในการแก้ไข อนุญาตให้ บุตร บุพการี และคู่สมรสของ ส.ส. สามารถลงสมัคร ส.ว. ได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาครอบงำ ส.ว. และจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระในอนาคตอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นายถาวร ยืนยันจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จะไม่ยอมให้มาตรา 5 ผ่านการโหวตของสภา และฝ่ายค้านจะยื้อเวลาให้ถึงที่สุด ส่วนจะคว่ำมาตรา 5 หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ แต่ขอให้รอดูว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ยอมเช่นเดียวกัน
มาตรา 5 ผ่านฉลุย ครอบครัว ลงสมัคร ส.ว. ได้
เมื่อเวลา 21.00 น. (4 ก.ย.) การประชุมร่วมรัฐสภา ประเด็นที่มาของ ส.ว. มาตรา 5 เรื่องคุณสมบัติต้องห้ามของ ส.ว. เป็นไปอย่างราบรื่น กระทั่งถึงช่วงที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปราย โดยมี นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุม ได้ต่อว่า นายบุญยอด ที่ได้ก่อนหน้านี้ กล่าวหาว่า นั่งสัปหงกตอนทำหน้าที่ ทำให้เสียหาย ขณะที่มีเกิดการโต้เถียงกันไปมา มีเสียงโห่และตะโกนเป็นระยะ จนมีเสียงหลุดออกมาดังลั่นว่า "ตุ๊ด" ทำให้ นายบุญยอด ไม่พอใจมาก หันกลับไปตอบโต้ฝั่งที่นั่ง ส.ส.เพื่อไทย ว่า ขอให้สมาชิกที่พูดกล้าแสดงตัว จน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ยอมรับว่า เป็นคนพูดจริง ที่สุด นายนิคม ได้ให้ นายบุญยอด อภิปรายต่อจนจบ
ต่อมาเวลา 22.10 น. นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติให้ปิดอภิปราย ทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลุกประท้วงว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เคยวินิจฉัยว่า การเสนอญัตติลักษณะนี้ทำไม่ได้ ขอให้ย้อนกลับไปดูคำวินิจฉัยเดิมของนายสมศักดิ์ ด้วย แต่ นายนิคม ชี้แจงว่า เมื่อมีผู้เสนอญัตติมาก็ต้องทำตามข้อบังคับ และสอบถามกับทางฝ่ายเลขาฯ ซึ่งยืนยันว่า ทำได้ โดยที่ไม่มีผู้ใดเสนอให้เปิดอภิปรายต่อ นายนิคมจึงขอมติจากที่ประชุม ท่ามกลางเสี่ยงโห่และตะโกนด่าว่า แต่ที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามการแก้ไขของคณะกรรมาธิการฯ ด้วยคะแนน 316 ต่อ 3 งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 13
ส่งผลให้คุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครเป็นส.ว. เปิดกว้าง ไม่ได้จำกัดห้ามความเป็นคู่สมรส บุตร บุพการี หรือเครือญาติ รวมถึงไม่ห้าม ส.ส. ส.ว.ต้องเว้นวรรคการลงสมัครติดต่อกัน จากนั้นได้สั่งปิดประชุมเวลา 22.25 น.