แชร์สนั่น! ผอ.ร.ร.ดัง สั่งกำจัดสุนัข นักเรียนวอนช่วย
(5 ก.ย.) มีรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพประกาศของนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ทำขึ้นเพื่อต่อต้านผู้อำนวยการคนใหม่ ซึ่งมีนโยบายที่จะกำจัดสุนัขที่อาศัยอยู่ในโรงเรียนมาเป็นเวลานานนับสิบปีออกไป โดยทั้งนักเรียนและผู้ปกครองต่างก็รู้สึกผูกพันและสงสารสุนัขเหล่านี้ จึงรับไม่ได้ที่จะปล่อยให้สัตว์ออกไปอยู่ในความดูแลของศูนย์กักกันสุนัขกทม.
โดยผู้โพสต์ข้อมูลระบุข้อความดังนี้
"ขอความช่วยเหลือหมาที่อยู่ในโรงเรียน
ลูกมาบอกว่าผอ. ใหม่จะให้ กทม.มาจับสุนัขที่อยู่ในโรงเรียนทั้ง ๆ ที่พวกเขาอยู่กันมาเป็น 10 ปี และเด็ก ๆ ก็ผูกพันกับสุนัขเหล่านี้ แต่ผอ.กลับไม่เห็นถึงชีวิตของหมาพวกนี้ ดิฉันเป็นแม่ที่เรียนที่นี่ ไปทีไรจะได้เจอหมาพวกนี้ และงานกีฬาสี พวกหมานี้จะลงสนามไปวิ่งด้วยหลายครั้งที่เห็นแล้วยิ้มได้ และรู้สึกดีกับร.ร. ที่เห็นค่าของพวกเขา
แต่ ณ เวลานี้ พอคนใหม่มากลับมาทำแบบนี้ ซึ่งขนาดนี้เด็ก ๆ และอาจารย์กำลังหาทางช่วยเหลือ และนี่คือป้ายคัดค้านของเด็กที่ทำขึ้นเพื่อให้หมาเหล่านี้ได้อยู่ต่อไป หมาที่นี่ได้รับการทำหมันและฉีดวัคซีนแล้ว อยากให้ช่วยกันช่วยเหลือหมาพวกนี้ด้วยค่ะ"
ทั้งนี้ มีหนึ่งความคิดเห็นที่ชี้ถึงปัญหาของสุนัขในโรงเรียนว่า
"ตอนนี้ได้พูดคุยกับทางผู้เกี่ยวข้อง อยากให้เข้าไปพูดคุยหาทางออกกับทาง ร.ร.ว่า จะดูแลไม่ให้หมาออกมาเพ่นพ่านในเวลาเรียน เพราะเกิดเหตุหมากัดเด็ก ทาง ร.ร.ได้รับการร้องเรียน ว่ามีเห็บหมัดขึ้นตามห้องเรียน หมาน้อยไปอึถ่ายไม่เป็นที่ ทาง ร.ร.เองก็ไม่สบายใจ และสถานที่ใต้สระว่ายน้ำที่น้องหมาอยู่ส่งกลิ่นเหม็น ทางคณาจารย์ก็อยากให้ช่วยกันหาทางออกว่าถ้าหมาจะอยู่จะให้อยู่อย่างไร หาทางออกที่ดีร่วมกันค่ะ ในฐานะศิษย์เก่า และคนรักหมาค่ะ หาทางออกร่วมกันค่ะ"
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สังคมออนไลน์ต่างแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนที่จะปัดความรับผิดชอบโดยโยนภาระไปให้กทม.เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะสถานที่กักกันสัตว์ของกทม.นั้นมีความแออัด ไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่ได้รับการดูแลที่ดี และเนื่องจากสุนัขเหล่านี้อยู่ในโรงเรียนมานาน ครูอาจารย์และนักเรียนต่างก็ให้ความเอ็นดู ให้อาหารสุนัขเหล่านี้อยู่เสมอ อีกทั้งยังฉีดวัคซีนและทำหมันให้สุนัขเรียบร้อยแล้ว จึงร่วมแชร์และคัดค้านการกระทำของผอ.ดังกล่าว
(ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเพจ UniDog (Thailand), " A call for Animal Rights " Walk Rally)