5 รุ่ง และ 5 ร่วง แข้งเยอรมันในพรีเมียร์ลีก... 'โอซิล' จะรอดหรือไม่?

5 รุ่ง และ 5 ร่วง แข้งเยอรมันในพรีเมียร์ลีก... 'โอซิล' จะรอดหรือไม่?

5 รุ่ง และ 5 ร่วง แข้งเยอรมันในพรีเมียร์ลีก... 'โอซิล' จะรอดหรือไม่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ทีมชาติเยอรมัน ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ ในช่วงวันสุดท้ายของตลาดการซื้อขายนักเตะในยุโรป ซึ่งเจ้าตัวก็มาพร้อมกับความคาดหวังจากแฟนบอลที่สูงพอสมควร

ในอดีตนั้น มีนักเตะชาวเยอรมันมากมาย ที่ย้ายเข้ามาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บ้างก็ประสบความสำเร็จ มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม แต่บางรายก็ต้องยอมรับว่าเอาชื่อมาทิ้ง ดับสนิท และวันนี้ เราขอนำเสนอบทความที่ถูกเผยแพร่จากสื่อชื่อดังของอังกฤษอย่าง "เดลี่ เมล์" มาให้ได้รับชมกัน ใครที่เคยผ่านเข้ามาแล้ว "รุ่ง" รวมถึง "ร่วง" กันบ้าง เชิญชม

ดีทมาร์ ฮามันน์ (รุ่ง)

ฮามันน์ เป็นกองกลางที่ได้รับการยอมรับว่าเล่นได้อย่างครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งในยุคตัวเอง เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของ "หงส์แดง" ไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ช่วงปี 2005 ที่มีส่วนสำคัญพาทีมลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในระหว่างที่เจ้าตัวอยู่กับทีมในปี 1999 - 2006 ก็มีส่วนในการช่วยให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย จนกลายมาเป็นยอดนักเตะจนถึงปัจุบัน

มิชาเอล บัลลัค (รุ่ง)

ในช่วงปี 2006 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด สองทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ต่างหมายมั่นปั้นมืออยากจะคว้าตัว บัลลัค ไปเสริมทีมให้ได้ แต่ในที่สุดก็เป็น เชลซี ในยุคมูรินโญ่ภาคแรกที่ได้ตัวไป และนั่นทำให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เป็นทีมที่มีแผงกองกลางแข็งแกร่งขึ้นมาอีกระดับ โดยเข้ามาผนึกกำลังร่วมกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จุดเด่นของอดีตกัปตันทีมชาติเยอรมันรายนี้อยู่ที่หัวจิตหัวใจ ทุ่มเทให้กับทีมเกินร้อยเสมอยามลงสนาม

มาร์คุส บับเบิ้ล (รุ่ง)

บางคนมองว่า แกรี่ เนวิลล์ คือแบ็กขวาที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยความสม่ำเสมอ ความทุ่มเท รวมถึงฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา ซึ่งความจริงแล้ว บับเบิ้ล ก็มีความใกล้เคียงกับมาตรฐานนี้มาก ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยพยายามจะเซ็นสัญญากับ บับเบิ้ล ในปี 1999 แต่ก็ไม่สำเร็จ และกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ตัวมาร่วมทีมในปี 2000 ในที่สุด

เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ (รุ่ง)

"ฉลามขาว" เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ เป็นนักเตะชาวเยอรมันคนแรกๆ ที่ย้ายเข้ามาเล่นฟุตบอลในอังกฤษ เจ้าตัวย้ายมาอยู่กับ สเปอร์ส ในปี 1994 การมาของกองหน้ารายนี้เปลี่ยนโฉมเกมรุกของทีมไปอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าจะอยู่ค้าแข้งในลีกผู้ดีเพียงฤดูกาลเดียว แต่ก็ฝากผลงาน 21 ลูก จากการลงเล่น 41 เกมไว้เป็นร่องรอยให้แฟนบอลได้คิดถึงมาจนถึงทุกวันนี้

เยนส์ เลห์มันน์ (รุ่ง)

สุดยอดนายทวารรายนี้ถูก อาร์เซน่อล วางตัวให้เป็นทายาทของ เดวิด ซีแมน แบบน่าประหลาดใจเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป แฟนบอลก็เริ่มเข้าใจถึงการตัดสินใจของ เวนเกอร์ ในครั้งนี้ เลห์มันน์ ยึดมือหนึ่งของทีมได้ 4 ปี จุดเด่นอยู่ที่ความมุ่งมั่นในเกมสูง และประสบการณ์ที่เหลือเฟือ เป็นที่พึ่งในเกมใหญ่สำหรับน้องๆภายในทีมได้

คริสเตียน ซีเก้ (ร่วง)

ซีเก้ เริ่มต้นใช้ชีวิตในอังกฤษกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ได้อย่างสวยงามในปีแรก และในปีต่อมาก็ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ลงสนามมากนัก หลังถูกมองว่าเป็นคนสร้างความผิดพลาดในเกมที่แพ้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป 4-3 ต่อมาก็ย้ายมาเล่นให้กับ สเปอร์ส แต่เวลาส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บ และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถกลับคืนสู่ฟอร์มเก่งได้อีกเลย

คาร์ล ไฮนซ์ รีดเล่ (ร่วง)

กองหน้าชาวเยอรมันรายนี้ดูเหมือนจะย้ายเข้ามาแบบผิดจังหวะ ซึ่งเป็นช่วงที่ ลิเวอร์พูล มีกองหน้าอย่าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ ไมเคิ่ล โอเว่น อยู่ในทีม ทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยทีโอกาสลงโชว์ผลงานมากนัก ผลงานการยิงประตู 11 ลูก จากการลงสนาม 60 นัด ในระหว่างปี 1997 - 1999 ไม่ได้เป็นที่น่าจดจำของแฟนบอลเลยสักนิด

มาร์โค มาริน (ร่วง)

ปีกตัวจี๊ดรายนี้ย้ายมาอยู่กับ เชลซี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงลากเลื้อยเหมือนตอนอยู่เยอรมันมากนัก อาจเป็นเพราะตำแหน่งไปทับกับ ฆวน มาต้า, เอแด็น อาซาร์ จนสุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวไปชุบชีวิตกับเซบีย่า ในลาลีกา สเปน

ลาร์ส ลีส (ร่วง)

ภาพจาก www.sportsworldcards.com

ผู้รักษาประตูรายนี้มีฟอร์มการเล่นที่ไม่น่าเกลียดอะไรนักกับทีมบาร์นสลี่ย์ แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะมีปัญหากับเรื่องอื่นมากกว่า ครั้งหนึ่ง ลีส ได้ออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับผู้หญิงในเมืองที่อาศัยอยู่ และสุดท้ายก็อยู่ค้าแข้งในอังกฤษได้เพียง 2 ปีเท่านั้น

ชอน ดันดี (ร่วง)

ดาวเตะรายนี้ถูกเซ็นสัญญาเข้ามาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ ในปี 1998 ซึ่งก็เป็นช่วงใกล้กับ คาร์ล ไฮนซ์ รีดเล่ และเจ้าตัวก็พบปัญหาเดียวกันคือ ไม่ได้ลงสนามมากนัก บวกกับในตอนนั้นทีมมีผลงานโดยรวมไม่ค่อยดี จบอันดับที่ 7 ของตาราง สุดท้ายก็ต้องย้ายกลับเยอรมันในปีต่อมา แต่ก่อนที่จะย้ายออกไป เจ้าตัวก็ได้ทิ้งคำถามไว้ด้วยว่า "ผมไม่เคยได้รับโอกาส ผมต้องออกไปจากที่นี่โดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook