ธาริตเผยต้องปฏิบัติตามอัยการส่งสำนวนปปช.

ธาริตเผยต้องปฏิบัติตามอัยการส่งสำนวนปปช.

ธาริตเผยต้องปฏิบัติตามอัยการส่งสำนวนปปช.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีดีเอสไอ เผย ต้องปฏิบัติตาม อัยการสั่งให้ส่งสำนวน คดีทุจริตบีทีเอส ส่วนนักการเมือง ให้ ป.ป.ช.พิจารณา

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีที่ อัยการ ส่งสำนวนคดี ที่ดีเอสไอ กล่าวโทษ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพวก ต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายออกไป 13 ปี และการขยายเส้นทางสัมปทานใหม่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าข่ายร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค หรือกิจการรถราง โดยไม่ได้รับอนุญาต กลับคืนให้ดีเอสไอ เพื่อส่งสำนวนให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ส่งสำนวนฟ้อง ว่า ดีเอสไอได้รับสำนวนคดีดังกล่าวกลับคืนมาจากอัยการแล้ว และได้ส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวนแทนดีเอสไอ เนื่องจาก อัยการ มองว่า คดีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ในการไต่สวนและพิจารณาสั่งฟ้อง ส่วน ป.ป.ช. จะนำไปไต่สวนเพิ่มเติม หรือจะตั้งดีเอสไอร่วมเป็นอนุกรรมการไต่สวน ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. โดยกรณีที่อัยการ ส่งสำนวนกลับคืนให้ดีเอสไอ ไม่ได้เป็นปัญหาจากเนื้อหาของสำนวนการสอบสวน แต่ อัยการ มองว่า คดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอ และอัยการ ที่ร่วมสอบสวนคดีดังกล่าว เห็นตรงกันว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะอยู่ในอำนาจการสอบสวนของ ป.ป.ช. แต่เป็นกรณี ผู้ว่าฯกทม. และพวก กระทำนอกอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปต่อสัญญา รวมถึงขยายเส้นทางใหม่ ดีเอสไอจึงไม่ได้แยกสำนวนส่งให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวน

อย่างไรก็ตาม สุดท้าย เมื่ออัยการสูงสุด มีความเห็นส่งสำนวนคืนให้ดีเอสไอ นำไปมอบให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวนและพิจารณาสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็ต้องปฏิบัติตาม


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook