บรรหารคุยสนธิชวนปฏิรูปยันจริงใจ-จำลองจี้ถอนนิรโทษ
'บรรหาร' พบ 'สนธิ ลิ้มทองกุล' ทาบทามร่วมปฏิรูป ขณะ 'พล.ต.จำลอง' ลั่น ไม่ร่วม จี้รัฐบาลถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ลดขัดแย้งก่อน
นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้ประสานงานสภาปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ได้เดินทางเข้าพบ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเชิญเข้าร่วมสภาปฏิรูปประเทศ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยืนยัน กลางโต๊ะพูดคุยอย่างชัดเจนว่า ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเอง จะไม่ร่วมในสภาปฏิรูปครั้งนี้
พร้อมเรียกร้องให้ รัฐบาลแก้ไขปัญหาจากต้นตอของความขัดแย้ง โดยเฉพาะโครงการต่าง ๆ ที่ประชาชนไม่เห็นด้วย ในการกู้เงินจำนวนมหาศาลมาลงทุน อาทิ โครงการกู้งบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เนื่องจากมองว่า จะช่วยให้ความขัดแย้งในบ้านเมืองลดลง และไม่จำเป็นต้องจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศ
ด้าน นายบรรหาร ศิลปอาชา กล่าวยืนยันว่า ตนมีความจริงใจในการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
สนธิถามบรรหารให้ทักษิณมารับโทษก่อนหรือไม่
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตั้งคำถาม 7 ข้อ ไปยัง นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างการพูดคุยเพื่อเชิญ เข้าร่วมสภาปฏิรูปประเทศ โดยระบุว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรกลับเข้ามารับโทษคดีทางการเมืองในประเทศ และจะมั่นใจได้อย่างไรว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้จะไม่เป็นการช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งมีแนวคิดอย่างไร การเมืองในปัจจุบันที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะต้องเดินทางไปขอตำแหน่งจากอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมตั้งคำถามว่า การบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังรัฐบาลทั้งหมด ใช่หรือไม่
โดย นายบรรหาร กล่าวตอบยืนยันว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ คอยเสนอแนะการทำงานให้กับ นายกรัฐมนตรี เท่านั้น ไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งหมด โดยกล่าวว่าการที่มีผู้เดินทางไปขอตำแหน่งจากอดีตนายรัฐมนตรีนั้น ตนไม่เคยทราบ แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนการที่จะให้ พ.ท.ต.ทักษิณ กลับเข้ามารับโทษนั้น นายบรรหาร ตอบว่าการที่ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เข้ากลับมา เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่า หากมีการแปรญัตติกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ ให้สามารถช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีได้นั้น ตนจะไม่เข้าร่วม