ยธ.เผยอัยการไม่ฟ้องคดีบีทีเอสตามดุลพินิจ

ยธ.เผยอัยการไม่ฟ้องคดีบีทีเอสตามดุลพินิจ

ยธ.เผยอัยการไม่ฟ้องคดีบีทีเอสตามดุลพินิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผย ตั้งคณะทำงาน หลังเห็นสมควรถอดใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด แต่ต้องนำเรื่องเสนอ รมว.สธ. อีกครั้ง ขณะกรณีไม่ฟ้องบีทีเอส และส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ขึ้นอยู่ดุลพินิจของอัยการ

นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพัฒนานโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับพืชกระท่อม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 26 หน่วยงาน ร่วมเป็นคณะทำงาน และมีการเสนอ 5 แนวทาง พิจารณาถอดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประกอบด้วย 1.ให้พิจารณากำหนดให้พืชกระท่อมเป็นสมุนไพร 2.ให้พืชกระท่อมเป็นสารที่ถูกควบคุม ในฐานะวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท 3.ให้ปรับปรุงระเบียบแนวทางการควบคุมโดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย ในส่วนผู้ใช้พืชกระท่อมในวิถีแบบดั้งเดิม เช่น การเคี้ยวเพื่อทำงาน 4.ขอให้พิจารณากรณีการนำใบกระท่อมไปใช้เป็นสารตั้งต้นแปรสภาพเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประกอบการปรับแก้กฎหมาย และ 5.ขอให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ พิจารณาว่าหากไม่สามารถดำเนินการได้ ควรจะดำเนินการต่อประเด็นพืชกระท่อมอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ นายชัยเกษม เห็นสมควรให้ถอดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด แต่อย่างไรก็ตาม จะพิจารณา 5 แนวทาง ที่คณะกรรมการได้เสนอ ก่อนจะพิจารณาเสนอข้อมูลทั้งหมดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณา และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ต่อไป


ขณะที่ กรณี อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ตีกลับสำนวนคดีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 9 คน และนิติบุคคลอีก 1 คน ผู้ต้องหาต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลับมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ หลังคณะทำงานอัยการมีความเห็นว่า ดีเอสไอ ไม่มีอำนาจการสอบสวนสรุปสำนวน เนื่องจากเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และให้ดีเอสไอส่งเรื่องไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้วินิจฉัยชี้มูลความผิด

ทั้งนี้ นายชัยเกษม ระบุว่า การส่งสำนวนให้กับอัยการของดีเอสไอ ทำไปตามพยานหลักฐาน และใช้ดุลพินิจในการสั่งคดี ไม่ใช่การกลั่นแกล้งใคร เชื่อว่า การที่อัยการตีกลับสำนวนนั้น เป็นดุลพินิจที่จะมีความเห็นแตกต่างจากดีเอสไอ มีเหตุผลและสามารถอธิบายได้ และทางดีเอสไอก็จะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิดในคดีนี้ต่อไป


ส่วนกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังวันที่ 18 ตุลาคม 2556 จะดำรงตำแหน่งครบรอบ 4 ปี ให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2557 ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้เสนอนั้น 

นายชัยเกษม ระบุว่า ในฐานะผู้บริหาร ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ดีเอสไอมีผลงานเป็นที่ยอมรับของประชาชน โดดเด่น ต่อเนื่อง และมีเรื่องต้องปรับปรุงน้อยมาก และ นายธาริต ก็บริหารงานได้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อการทำงานของกระทรวงยุติธรรม จึงเห็นสมควรให้ต่ออายุการทำงานของ นายธาริต ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่ใช่การปิดทางรองอธิบดี หรือบุคคลอื่นที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดี 

ด้าน นายธาริต ระบุว่า เมื่อทางฝ่ายบริหารมอบความไว้วางใจ และมอบภารกิจให้ทำหน้าที่ต่อ ตนก็จะทำงานให้ดี
ที่สุด


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook