หญิงอเมริกันผลักสามี"ตกหน้าผา"ทั้งที่เพิ่งแต่งงานได้ 8 วัน
(11 ก.ย.) หญิงชาวรัฐมอนตานาของสหรัฐฯรายหนึ่งถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม หลังจากยอมรับว่าผลักสามีที่เพิ่งแต่งงานเพียง 8 วัน ตกหน้าผาเสียชีวิต
โดยนางจอร์แดน ลินน์ เกรแฮม วัย 22 ปี จะต้องเข้าให้การในศาลในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ในข้อหาฆาตกรรมนายโคดี้ จอห์นสัน เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจเผยว่า ในตอนแรกนางเกรแฮม ให้การอันเป็นเท็จต่อตำรวจ หลังจากเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ว่าสามีวัย 25 ปี หายสาบสูญ
ต่อมาครอบครัวของนายจอห์นสัน เรียกร้องให้มีการนำคดีขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง หลังเฮลิคอปเตอร์พบร่างของเขานอนนิ่งอยู่เบื้องล่าวหุบเขา บริเวณจุดชมวิวที่เรียกว่า "ลูป" บริเวณอุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ ในวันที่ 12 ก.ค. ผลการชันสูตรพลิกศพเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ชี้ว่าเขาเสียชีวิตจากการบาดเจ็บสาหัสจากการตกหน้าผา
จากบันทึกคำให้การของเอฟบีไอ นางเกรแฮมให้การในเบื้องต้นว่าเธอได้รับข้อความจากสามีว่าเขาจะไปขับรถเล่นกับเพื่อน และกล่าวว่าเธอและสามีต่างลบข้อความดังกล่าวออก จึงไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ ในอีก 2 วันต่อมาเธอเป็นคนแรกที่เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้พบศพสามี ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เธอพบศพ เนื่องจากเป็นหุบเขาลึก รายงานระบุคำกล่าวของเธอว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ที่สามีของเธออยากเดินทางไปเที่ยวมานานแล้ว
ในคำบันทึกคำสาบานที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์มิสซูเลียน เธอกล่าวเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ว่า เธอยอมรับว่าเธอให้การเท็จเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสามี เธอกล่าวต่อพนักงานสอบสวนว่า เธอและสามีได้มีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดชมวิวดังกล่าว ซึ่งเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงที่นั่น
บันทึกคำให้การระบุว่า นายจอห์นสันคว้าแขนของเธอ หลังจากเธอพยายามเดินหนี ก่อนที่เธอจะสะบัดแขนออก และด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เธอได้ใช้มือทั้งสองผลักบริเวณด้านหลังของสามี กระทั่งเขาตกหน้าผา
รายงานของเอฟบีไอระบุข้อความทางโทรศัพท์ที่เธอส่งถึงเพื่อนในคืนที่สามีเสียชีวิตว่า เธอเริ่มไม่แน่ใจและลังเลเกี่ยวกับการแต่งงานที่เพิ่งผ่านมาเพียง 8 วัน
ด้านเทรซีย์ มาเนลล์ คนรู้จักของของครอบครัวนายจอห์นสัน กล่าวว่า ไม่มีใครรู้สึกช็อคที่รู้ว่านางเกรแฮมตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการสังหารสามีของเธอ เนื่องจากเธอเที่ยวบอกคนอื่นๆว่า เธอไม่เคยต้องการแต่งงาน เธอแค่อยากจัดงานแต่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความขัดแย้งให้แก่ทั้งสอง