สุดเหี้ยม!โยนพระสงฆ์วัย 92 ปีลงจากกุฎิจนมรณภาพ ชิงพระเครื่องทองคำโบราณ

วันนี้ (11 ก.ย.56) ร.ต.ท.ประสงค์ พยัคฆา พนักงานสอบสวน สภ.บ้านขล้อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุพระสงฆ์พลัดตกกุฎิมรณภาพที่วัดตาลเอน ม.1 ต.ตาลเอน จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.พุฒิพงศ์ อินธาระ หัวหน้าพนักงานสอบสวน จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบศพพระเฉลียว ธัมวโร อายุ 92 ปี พระลูกวัดตาลเอน พระและสามเณรได้ช่วยเหลือนำศพมาวางไว้หน้ากุฎิ ทรงไทยกพื้นสูง สวมใส่สบงและอังสะเรียบร้อย ที่คอห้อยประคำ ส่วนองค์พระหายไปเหลือแต่กรอบพระ ที่บริเวณศรีษะ ไหล่ขวา มีรอยฟกช้ำ ตรวจสอบภายในกุฎิพบว่าถูกล็อคจากบริเวณด้านใน จึงได้ปีนเข้าไปทางช่องลมเพื่อเปิดกุฎิ พบว่า ใช้ไม้ขัดบานประตูล็อคเอาไว้ ข้าวของภายในกุฎิถูกรื้อค้น กระจัดกระจายเกลื่อนห้อง พระพุทธรูปที่โต๊ะหมู่บูชา พัดลม โทรทัศน์ล้มแตกได้รับความเสียหาย พระเครื่องทองคำ ในย่ามได้สูญหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานต่าง นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบบริเวณด้านหลังกุฎิพบว่ามุ้งลวดหน้าต่างฉีกขาด ที่พื้นดินสูงจากกุฎิประมาณ 5 เมตร พบร่องรอยของพระเฉลียว ตกลงมากิ่งไม้หัก

จากการสอบสอบสวนนางจุรี นครเมือง อายุ 53 ปี ลูกสาวพระเฉลียว เปิดเผยว่า ปกติตนเองจะนำอาหารมาถวายหลวงพ่อทุกวัน แต่วันนี้ตนเองได้กดกริ่งเรียกที่หน้ากุฎิ แต่ไม่มีเสียงขานรับ จึงเดินดูรอบๆ กุฎิ และใต้ถุนกุฎิจึงพบร่างของหลวงพ่อนอนตะแคง จึงรีบวิ่งเข้าไปจับตัวดูพบว่าตัวยังเย็นอยู่ เลยเรียกพระสามเณรมาช่วยกันพาขึ้นมาบนกุฎิ และแจ้งกำนันมาช่วย เพื่อจะนำส่งโรงพยาบาล แต่พบว่าหลวงพ่อเสียชีวิตแล้ว

นางจุรี กล่าวด้วยว่า พระเครื่องที่ห้อยอยู่กับประคำที่ห้อยคอหายไป ปกติหลวงพ่ออยู่องค์เดียว สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ภายในกุฎิมีข้าวของกระจัดกระจาย จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนร้ายแอบเข้ามาในกุฎิเพื่อขโมยของ และมีการต่อสู้กันก่อนคนร้ายจะผลัก หรือจับหลวงพ่อโยนลงมาจากกุฎิ

ด้านพระมหาสมบุญ วราสโย อายุ 45 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตาลเอน กล่าวว่า ดูจากสภาพศพและสิ่งแวดล้อมในกุฎิเชื่อว่า คนร้ายน่าจะขึ้นมาเอาทรัพย์สินแล้วทำร้ายพระเฉลียวจนมรณภาพ ท่านบวชมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 มีสุขภาพแข็งแรง ปฎิบัติกิจของสงฆ์ได้ตามปกติ ท่านจะไม่ค่อยล็อคประตูในเวลากลางวัน หลังจากออกพรรษา พระเฉลียวจะเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดียและศรีลังกา จึงได้ไปทำพาสปอตร์เอาไว้แล้ว เสียดายที่ท่านต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ เป็นพระตัวอย่างที่ขยันสวดมนต์ช่วยงานทางวัดมาโดยตลอด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะมีการต่อสู้กันโดยประสงค์ต่อทรัพย์ และรู้ว่าพระเฉลียวมีพระเครื่องรวมทั้งพระเครื่องทองคำโบราณ น่าจะเป็นคนที่พระเฉลียวรู้จักและไว้ใจ โดยจะเร่งต้องทำการสอบสวนพยานพระ สามเณร รวมถึงเจ้าหน้าที่ในวัด และพยาน ที่อาจเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาภายในวัด และได้ส่งศพไปชั้นสูจน์ ที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต อีกครั้ง