ม็อบสวนยางบ้านเตาปูน-ควนหนองหงษ์ยังคงปิดถนน

ม็อบสวนยางบ้านเตาปูน-ควนหนองหงษ์ยังคงปิดถนน

ม็อบสวนยางบ้านเตาปูน-ควนหนองหงษ์ยังคงปิดถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช สั่งการตำรวจ ประเมินม็อบบ้านเตาปูน วอน เลิกปิดถนน หวั่นกระทบงานสารทเดือนสิบ ปลายเดือนนี้ ด้าน ผกก.ชะอวด เผย ม็อบยังปิดถนนแยกควนหนองหงษ์ ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ปิดถนนสายเอเชีย 41  บริเวณบ้านเตาปูน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ ว่า ตั้งแต่เมื่อวานได้สั่งการให้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ว่า มีความรุนแรงมากน้อยขนาดไหน อีกทั้งจะยืดเยื้อยาวนานหรือไม่  แล้วมาสรุปในเช้าวันนี้ เพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่า ผู้ชุมนุมเป็นเกษตกรที่เดือดร้อนจริงหรือไม่  อย่างไรก็ตาม ในฐานะฝ่ายปกครองต้องดำเนินการตามขั้นตอน ใช้หลักการเจราจา โดยได้เจราจาสำเร็จไปแล้ว 1 จุด ที่แยกควนหนองหงษ์ แต่ในบริเวณบ้านเตาปูน ยังเจราจาไม่สำเร็จ  อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดยืนยันจะไม่ใช้มาตรการที่รุนแรงกับผู้ชุมนุม

ผู้ว่าราชจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า อยากให้ผู้ชุมนุมเลิกการปิดถนน เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาก และในปลายเดือนนี้จะมีงานประเพณีเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ และทอดผ้าป่าพระธาตุสู่มรดกโลก ซึ่งหากยังมีการชุมนุมอยู่  จะสร้างความเสียหายอย่างมาก


ม็อบยางยังปิดควนหนองหงษ์ ผบก.นครฯ ถกเครียดเช้านี้

พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เผ่าชู ผกก.สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์ล่าสุด ที่สี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา ยังคงปิดถนนหลวงทั้งขาขึ้น ขาล่อง ติดต่อกัน ตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งม็อบ ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดเส้นทางการจราจร โดยทางตำรวจท้องที่ คอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนการสั่งการนั้นคงเป็นเรื่องของทางผู้บังคับบัญชา ว่าจะทำอย่างไร


โดยล่าสุด พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมายัง สภ.ชะอวด เพื่อประชุมและประเมินสถานการณ์การชุมนุม รวมทั้ง การจัดกำลังเพื่อเตรียมพร้อมในที่ตั้งด้วย คาดว่า จะมีความคืบหน้าในการสั่งการต่อไป


แกนนำสวนยางสงขลา พอใจมาตรการช่วยเหลือ

นายกาจบัณฑิต รามมาก ในฐานะผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ของ จ.สงขลา และแกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์ม จ.สงขลา กล่าวว่า ทางเครือข่ายชาวสวนยางใน จ.สงขลา ทุกกลุ่ม พอใจมาตรการช่วยเหลือของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคายางพารา และจะยุติการออกมาเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ ทั้งการปิดด่านพรมแดนสะเดาและท่าเรือน้ำลึกสงขลา และจะไม่นำมวลชนเข้าร่วมชุมนุมทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ ตามมติของภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดที่ได้ลงนามและแถลงการณ์ไปเมื่อวานนี้ ซึ่ง 5 จังหวัดยอมรับในเงื่อนไข คือ จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส โดยจะรอดูมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ 7 เดือนหลังจากนี้ ว่าเป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่

ส่วนกรณีที่อีกหลายจังหวัดยังไม่ยอมรับข้อเสนอ และเริ่มออกมาชุมนุมอีกครั้ง เช่นที่ จ.นครศรีธรรมราช นั้น เป็นเพราะยังยึดติดในตัวบุคคล ที่ส่ง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาลงนาม แทนที่จะเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรี ตามที่เรียกร้อง ตนมองว่าเป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อย แต่ในสาระเรื่องมาตรการช่วยเหลือนั้นรับได้ ใครจะมาลงนามก็ได้ การออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวใด ๆ หลังจากนี้จึงไม่เกี่ยวกับภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ เพราะได้มีมติชัดเจนแล้วว่าจะยุติการชุมนุม

เช่นเดียวกับ นายธนพล ทองหวาน กรรมการเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์ม จ.สงขลา ที่ระบุว่า หลังจากที่คณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ได้ประชุมกันเมื่อวันที่13 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีมติให้เครือข่ายชาวสวนยางทุกจังหวัดยุติการเคลื่อนไหว หลังจากนี้ จะให้ทุกจังหวัดเร่งขับเคลื่อนให้เกษตรกรชาวสวนยางไปขึ้นทะเบียนรับค่าปัจจัยการผลิตไร่ละ 2,520 บาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายนนี้


เครือข่ายชาวสวนยาง ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ

สถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่บริเวณถนนสาย 41 ขาขึ้นและขาล่องใต้ ท้องที่
บ้านเตาปูน อ.จุฬาภรณ์ และสี่แยกควนหนองหงษ์ หมู่2 ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช กลุ่ม
ชาวสวนยางในพื้นที่ ได้เริ่มทยอยปิดถนนเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังผลการทำมติของรัฐบาลกับแกนผู้ประสาน
ไม่สามารถตกลงตามมติที่ได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้ว่า รัฐจะช่วยแทรกแทรงยางพาราในราคากิโลกรัมละ 90 บาท
แต่จะชดเชยด้านปัจจัยการผลิต ไร่ละ 2,520 บาท โดยรวมตัวปิดถนนทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่อง มีการนำรถสิบล้อ
ยางรถยนต์ ไม้และเต็นท์มาวางบนถนน พร้อมเตรียมตั้งเวทีปราศรัย ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ ผู้ชุมนุมยัง
คงปักหลักปิดถนน แม้ส่วนหนึ่งจะกลับไปทำภารกิจที่บ้าน แต่คาดว่าในช่วงสาย จะเดินทางมาสมทบขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้ง 2 จุด
 
ในขณะที่ นายยอดชาย ดีเจริญ ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ออกแถลงกาณ์ฉบับที่ 1
ว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการชุมนุม ปิดถนนบริเวณบ้านเตาปูน และแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด เรียกร้องราคา
ยางพารา แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ  ที่เป็นหน้าพอใจ จากรัฐบาล จึงมีการปิดถนนที่บริเวณบ้านเตาปูน อีกครั้ง เพื่อ
ยื่นข้อเสนอดังนี้ คือ 1. ราคายางแผ่นดิบ 120 บาท 2. ปาล์มทะลาย 7 บาท 3. ให้ นายกรัฐมนตรี เข้าประชุมสภา
ทุกครั้ง หากไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง จะปิดถนนปักหลักชุมนุมต่อไปเรื่อย โดยจะไม่มีการเจรจาที่ไหนโดยเด็ดขาด
ถ้ามีการเจรจา ให้มาเจรจาต่อหน้าผู้ชุมนุมที่ตรงนี้


ผู้ว่านครฯ รุดเจราจาม็อบยางเช้านี้ - ตร. รอผลถกก่อนตัดสินใจ

พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา ทำการปิดถนนที่บ้านเตาปูน และแยกควนหนองหงษ์ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช รอบใหม่ เมื่อวานนั้น

ล่าสุด ทาง นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นัดหมายแกนนำม็อบยางอีกครั้ง ในวันนี้ โดยจะทำการเจราจาให้ม็อบเปิดเส้นทางการจราจร ทั้ง 2 จุด เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งทางตำรวจเอง จะประเมินสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง ว่าผลการเจรจาออกมาอย่างไร จึงจะรายงานหน่วยเหนือ เพื่อหาทางแก้ไขต่อไป

นอกจากนี้ ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมีการใช้เครื่องเทียมอาวุธ เช่น หัวน็อต ลูกแก้ว และอื่น ๆ ยิงใส่ตำรวจที่มาดูแลรักษาความเรียบร้อยโดยรอบม็อบจริง แต่โชคดีที่ไม่นายตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook