นายกฯถึงไทยขอม็อบยางอย่าปิดถนนยึดผลถก-มติกนย.

นายกฯถึงไทยขอม็อบยางอย่าปิดถนนยึดผลถก-มติกนย.

นายกฯถึงไทยขอม็อบยางอย่าปิดถนนยึดผลถก-มติกนย.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรีถึงไทยแล้ว ขอม็อบยางอย่าปิดถนน ให้ยึดผลการเจรจา และมติ กนย. ขณะที่กลุ่มหน้ากากขาวป่วน ชูป้ายโจมตีนายกฯ ผลาญภาษีประชาชน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการเดินทางปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ ถึงกรณีที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ บางส่วน ไม่พอใจมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล และมีการชุมนุมปิดถนน ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ได้รับรายงานตั้งแต่อยู่ในต่างประเทศแล้ว ซึ่งย้ำให้ ผบ.ตร. ดูแลเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามขอร้องทางผู้ชุมนุมว่าอย่าปิดถนน เพราะจะทำให้การจราจรติดขัด และอาจกระทบต่อเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่าทางรัฐบาลจะยึดผลการเจราจาที่คณะของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เดินทางลงไปเจราจากับตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาและมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติหรือ กนย. เพราะเห็นว่าเกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่ในภาพรวมมีความพอใจ ส่วนมาตราการดูแลผู้ชุมนุมนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลตามขั้นตอน และขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ทั้งนี้ ภายหลังการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ได้มีกลุ่มหน้ากากขาวประมาณ 10 คน เดินทางมาที่ด้านหน้าอาคารรับรอง vip ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่งเสียงพร้อมชูป้ายที่มีข้อความโจมตีนายกรัฐมนตรี กรณีเดินทางไปต่างประเทศ ว่าเป็นการผลาญภาษีของประชาชนด้วย แต่ไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด

 

'ธวัช'ยันไม่เจรจาม็อบยางปิดถนนเชื่อไม่ยืดเยื้อ

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมปิดถนนของเกษตรกรชาวสวนยางบางส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ยังเชื่อว่าสามารถใช้กฎหมายปกติในการดูแลสถานการณ์ได้ และคงไม่ยืดเยื้อหรือบานปลาย ส่วนเส้นทางการปิดถนนนั้น ยังสามารถใช้ทางเลี่ยงได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเจรจาอีก เนื่องจากมาตรการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลขณะนี้ เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ส่วนใหญ่พึงพอใจ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ธวัช เปิดเผยว่า กลุ่มที่ปิดถนนขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่มาจาก จ.นครศรีธรรมราช และใกล้เคียง และอาจมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ เพราะจากการตรวจสอบ พบว่า มีเลขาฯนักการเมืองท้องถิ่น ประมาณ 4 จังหวัด เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ม็อบยางอัดรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

ผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา ที่แยกควนหนองหงษ์ ม.2 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ยังคงปิดถนนสาย 41 แสดงความไม่พอใจในการแก้ปัหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน โดยผู้ร่วมชุมนุมได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล ในการช่วยเหลือและแก้ปัญหาราคายางพาราไม่ตรงจุด ท่ามกลางกลุ่มชาวสวนยางพาราที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ ที่เริ่มทยอยเดินทางสมทบอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ข้างเวทีกำลังร่วมระดมความคิด และประชุมเพื่อหาตัวผู้ประสานงานในการพูดคุย และเตรียมขึ้นเวที ออกแถลงการอย่างเป็นทางการในช่วง 15.30 น. ที่จะถึงนี้เพื่อหาแนวทางในการชุมนุมกดดันรัฐบาลต่อไป       

ในขณะที่เวทีบ้านเตาปูน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ชาวสวนยางพารา ก็ยังคงปิดถนนสาย 41 เช่นกัน เพื่อร่วมกดดันรัฐบาลในการเรียกร้องราคายางพารา และมีผู้ชุมนุมร่วมสมทบอย่างต่อเนื่อง

 

ม็อบยางเปิดทางแยกเตาปูนแล้ว

บรรยากาศการชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่แยกควนหนองหงษ์ ม.2 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นไปด้วยความคึกคัก มีเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนออกมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก ขณะที่บนเวทีมี นายชญานินท์ คงสง ประกาศตัวเป็นแกนนำชุมนุมเรียกร้องราคายางพาราและปาล์มน้ำมันในครั้งนี้ โดยได้ออกแถลงการณ์ 4 ข้อเรียกร้อง คือ 1.รัฐบาลต้องเข้าแทรกแซงราคายางพารากิโลกรัมละ 95 บาท 2.รัฐบาลต้องเข้าแทรกแซงราคาปาล์มน้ำมัน กิโลกรัมละ 6 บาท 3.ความเสียหายจากการชุมนุมรัฐบาลต้องรับผิดชอบ และ 4.หากรัฐบาลไม่ดำเนินการแก้ไขราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน จะยกระดับการชุมนุมด้วยการขับไล่รัฐบาลทั้งชุด

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมมีมติยุบการชุมนุมที่บริเวณบ้านเตาปูน อ.จุฬาภรณ์ เพื่อมารวมกันที่แยกควนหนองหงษ์ เพียงจุดเดียว

 

ม็อบยางคึก ด้านผู้การฯ ยันไม่สลาย

กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่ชุมนุมปิดถนนแยกเตาปูน อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางสมทบร่วมกับเกษตรกรที่ชุมนุมอยู่ แยกควนหนองหงษ์ ม.2 อ.ชะอวด ทำให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มจำนวนมากขึ้นร่วม 2,000 คนแล้ว ขณะที่ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านรอบจุดชุมนุม เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ พร้อมกันนี้ยังระบุว่าจะไม่ใช้สลายการชุมนุม จะใช้วิธีการเจรจาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

ผกก.บางสะพานเผยสถานการณ์ในพื้นที่ปกติ-ไร้ม็อบชุมนุม

พ.ต.อ.วิติพจน์ พจนาคม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ในพื้นที่บ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน ซึ่งเป็นจุดชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปํญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน มีการรวมตัวชุมนุมกันบริเวณบ้านธรรมรัตน์ ตลอดทั้งวันและแยกย้ายกันไปเมื่อช่วงค่ำ สถานการณ์ในพื้นที่ล่าสุดยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยไม่พบว่ามีการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่ได้มีการวางกำลังอะไรเป็นพิเศษ เป็นเพียงการเฝ้าสังเกตการณ์ตามปกติเท่านั้น

ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิติพจน์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ มีความเป็นไปได้ 50:50 ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะกลับมารวมกันอีก ซึ่งตำรวจก็จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

 

คนขับรถบรรทุกแจ้งเอาผิดม็อบยางยึดรถปิดถนน

หลังจากที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขราคาที่ตกต่ำ บริเวณแยกเตาปูน อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ยอมเปิดเส้นทาง และชุมนุมร่วมกับกลุ่มเกษตรกรที่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด ทำให้คนขับรถบรรทุกที่ถูกบังคับให้นำรถปิดแยกเตาปูน เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ยึดรถนำไปปิดถนน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เร่งเก็บลายนิ้วมือเพื่อเป็นหลักฐาน และเตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา

ขณะที่เวทีการชุมนุมบรรดาเกษตรกรสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวที กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

 

ตร.เตรียมสรุปสำนวนคดี12แกนนำม็อบบางสะพาน

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ นพแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 12 คน ที่ถูกควบคุมตัวในเหตุการณ์ปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา กับตำรวจที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม บ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพานเมื่อวันที่ 5 - 6 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ ประจักษ์พยาน เจ้าหน้าที่ และผู้ถูกกล่าวหา รวมไปถึงรอผลตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ก่อนสรุปสำนวนพร้อมความเห็นส่งให้กับพนักงานอัยการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดำเนินการภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 5 ตุลาคม นี้ โดยทีมพนักงานสอบสวน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามกรอบเวลา

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเรียกแกนนำทั้ง 12 คน มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ขึ้นในบ้านเมือง, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดเพิ่มเติม จากกรณีทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเผารถสื่อมวลชนนั้น ก็จะมีการดำเนินการต่อไป

 

 

------------------------------------------------------------------------------

ม็อบสวนยางบ้านเตาปูน-ควนหนองหงษ์ยังคงปิดถนน

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=479740


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook