ผบ.ทบ.โยนสมช.ดู5ข้อBRN-ภราดรยังไม่ชงกฤษฎีกา
ผู้บัญชาการทหารบก โยนสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดู 5 ข้อ BRN ขัดกฎหมายหรือไม่ ยืนยันทหารทำหน้าที่ในภาคใต้อย่างดีที่สุด ขณะที่ เลขาฯสมช. ระบุ 3 ฝ่ายเร่งวิเคราะห์ 5 ข้อ BRN ก่อนส่งให้ฝ่ายกฤษฎีกา ตีความ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ ของกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ได้ส่งมาให้ทำการแปลความหมาย ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแปลเนื้อหาของส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ทั้ง 5 ข้อนั้น ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะต้องการให้กฤษฎีกา หรือฝ่ายกฎหมาย เป็นผู้ชี้ขาด และการกลับมาเผยแพร่ข้อเรียกร้องของกลุ่มบีอาร์เอ็น ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียนั้น ไม่ต้องการให้สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสำคัญ เพราะจะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ประโยชน์มากขึ้น
ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ในส่วนของทหารยังคงทำหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างดีที่สุด โดยใช้กำลังทุกภาคส่วน ในการปราบปรามและจับกุมดำเนินคดีตาม ป.วิอาญา คู่ขนานกับช่องทางการพูดคุยเพื่อสันติภาพ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงเหตุการณ์รัฐประหาร ที่จะครบรอบ 7 ปี ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ว่า เป็นบทเรียนที่คนไทยควรเอามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของกองทัพ ได้มีแนวทางและจุดยืนที่มั่นคงมาตลอด ว่าจะมุ่งมั่นทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการดูแลประชาชน รักษาอธิปไตย และรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
ภราดรบอก3ฝ่ายเร่งวิเคราะห์5ข้อBRNก่อนส่งกฤษฎีกา
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง ความคืบหน้าการวิเคราะห์ 5 ข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น กับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราห์ของฝ่ายความมั่นคงร่วมกับภาคประชาสังคมและภาควิชาการ จากนั้นจะส่งให้กับฝ่ายกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศ ตีความอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่ต้องส่งให้ฝ่ายกฤษฎีกาตีความนั้น เป็นเพราะว่า กลุ่มบีอาร์เอ็น ได้กล่าวอ้างถึงรัฐธรรมนูญของไทย หากการตีความออกมาไม่เหมือนกันก็จะนำเรื่องส่งไปยังผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติภาพ ทั้งนี้ พล.ท.ภราดร ระบุว่าการที่จะเปลี่ยนมาใช้กฎหมายในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา จาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็น พ.ร.บ.ความมั่นคง ยังรอดูสถานการณ์และความพร้อมของเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวอย่างมั่นใจว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีคนใหม่ จะสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่สะดุด