กิตติรัตน์มั่นใจพ.ร.บ.กู้2ลล.ไม่ขัดกฎหมาย

กิตติรัตน์มั่นใจพ.ร.บ.กู้2ลล.ไม่ขัดกฎหมาย

กิตติรัตน์มั่นใจพ.ร.บ.กู้2ลล.ไม่ขัดกฎหมาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท วันแรก เปิดประชุมแล้ว ขณะ 'กิตติรัตน์' มั่นใจ ไม่ขัดกฎหมาย พร้อมแจงทุกประเด็น โดยวันนี้ นายกรัฐมนตรี เข้าสภาถกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ลล. ด้วย ปัดยุบสภา

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป ครั้งที่ 10 เพื่อพิจารณาร่างพระราชบญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ 2 วันแรก ล่าสุด เปิดการประชุมแล้ว บรรดา ส.ส. ต่างเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยมี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะอยู่ร่วมรับฟังการอภิปรายตลอดการประชุมด้วย

ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนการประชุมว่า ส่วนตัวไม่กังวลในการพิจารณาร่างวันนี้ อีกทั้งมั่นใจ ไม่ขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ พร้อมชี้แจงในทุกประเด็น และเรียกร้องให้ผู้ที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ อยากให้ทบทวนอีกครั้ง เพราะรัฐบาลได้ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และมีผลในระยะยาว

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้รูปแบบของสำนักนายกรัฐมนตรี

 

นายกฯเข้าสภาถกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ลล.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง 2 ล้านล้านบาท มีความจำเป็นในการนำมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยรัฐบาล คำนึงถึงวินัยการเงิน การคลัง เป็นการเบิกจ่ายใน 7 ปี ซึ่งพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของทุกฝ่าย ขณะที่เชื่อว่า ฝ่ายค้านจะปฏิบัติตามกติกา ไม่ตีรวนในการประชุม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีสาเหตุของการนำไปสู่การยุบสภา แม้ว่า พ.ร.บ.ดังกล่าว จะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม เพราะถือเป็นการสร้างรายได้ในอนาคต

 

"ชัชชาติ"  มั่นใจ ร่าง พ.ร.บ. 2 ลล. ไม่ขัด รธน.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การดำเนินโครงการในพระราชบัญญัติเงินทุน 2 ล้านล้าน ให้อำนาจกระทรวงการคลัง เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนั้น เชื่อว่า จะผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไปได้และไม่มีส่วนใดของข้อกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษามาโดยละเอียด ร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว อย่างไรก็ตาม สิทธิ์ที่การยื่นร้องต่อศาลนั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ยืนยันว่า ความโปร่งใสที่ทางรัฐบาลได้ให้ความสัมคัญอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีระเบียบการของสำนักนายกรัฐมนตรี ในการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส และราคากลางก็สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ในส่วนที่หลายฝ่านกังวล เรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นก็เป็นมุมมองของแต่ละฝ่าย แต่หากไม่ดำเนินการก็จะทำให้ประเทศเสียโอกาสและในอนาคตก็อาจจะมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ฝ่ายค้าน ทวงถามเอกสารประกอบโครงการ

บรรยากาศล่าสุดในห้องประชุมเริ่มเข้าสู่วาระการพิจารณาร่างแล้ว โดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นอ่านรายงานของกรรมาธิการ จากนั้น ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวงถามถึงเอกสารรายละเอียดโครงการที่ขอไปก่อนหน้านี้ เพื่อประกอบการพิจารณาและใช้ในการอภิปราย ทำให้ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงว่า วิธีปฏิบัติของกรรมาธิการได้ทำอย่างครบถ้วน หากจัดทำเอกสารจำนวนมาก จะไม่ทันเวลาพิจารณา แต่ถึงไม่มีเอกสาร ก็สามารถพิจารณาต่อได้ จากนั้น ที่ประชุมก็เริ่มการอภิปราย โดย นายอนุชา บูรณชัยศรี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเป็นคนแรก

ทางด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า วันนี้ ฝ่ายค้าน มีผู้ลงชื่อสงวนคำแปรญัตติ 50 คน ที่จะอภิปรายใน 18 มาตรา โดยกรอบเวลาที่กำหนดไว้เบื้องต้น 2 วัน ยังไม่สามารถตอบได้ว่า เพียงพอหรือไม่ ต้องดูตามสถานการณ์ โดยฝ่ายค้าน เตรียมอภิปราย 4 ประเด็นหลัก คือ วินัยการเงินการคลัง ความไม่เหมาะสมและความไม่พร้อมของโครงการ ความไม่ชอบมาพากล ส่อไปในทางทุจริต รวมถึงการกู้เงินครั้งนี้ทำตาม พ.ร.บ. งบประมาณ 4 ฉบับหรือไม่

ทั้งนี้ ต้องติดตามว่า ฝ่ายค้าน จะตีรวนและการประชุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่

 

'องอาจ' ยัน กู้เงินพัฒนาปท. ในงบปกติได้

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทรราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ 2 วันแรก สมาชิกยังสลับกันอภิปรายอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เห็นด้วยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่สามารถทำในระบบงบประมาณปกติได้ ไม่จำเป็นต้องกู้นอกงบประมาณ ซึ่งวงเงิน 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลใช้งบประมาณในการทำโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกว่า 900,000 ล้านบาท ทั้งที่ความเป็นจริง ควรนำเงินไปใช้จ่ายดำเนินการรถไฟรางคู่ก่อน เพราะจะสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า ทั้งนี้ มองว่า การกู้เงินนอกระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ อีกทั้ง เงินที่กู้มา ยังไม่มีรายละเอียดโครงการชัดเจน

 

'กิตติรัตน์' แจง ใช้เงินโปร่งใส เกิดประโยชน์ส่วนรวม

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ 2 วันแรก ในที่ประชุมสมาชิก ยังคงอภิปรายในคำปรารภเกี่ยวกับวงเงินการกู้ ถึงแม้ไม่มีการแก้ไข แต่มีกรรมาธิการและมีผู้สงวนคำแปรญัตติ ซึ่ง ส.ส. ฝ่ายค้าน ส่วนใหญ่อภิปราย เห็นด้วยกับการพัฒานาโครงสร้างพื้นฐาน แต่สามารถกูในงบประมาณปกติได้ ทำให้

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท  ลุกขึ้นชี้แจงว่า เหตุผลสำคัญที่กู้เงินนอกระบบงบประมาณนั้น เพื่อความต่อเนื่องของโครงการ ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาของสภา ถือว่า เป็นกระบวนการในระบบ พร้อมยืนยัน มีความโปร่งใส ไม่ได้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และรัฐบาลจะใช้เงินอย่างระมัดระวัง เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

 

ส.ส.ปชป. ขอปรับลดวงเงินกู้ 2 ลล. หวั่นหนี้พุ่ง

การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... วงเงิน 2ล้านล้านบาท ขณะนี้ได้เข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 1 ให้พระราชบัญญัตินี้เรียกว่าพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... ซึ่งมีผู้สงวนคำแปรญญัตติ 12 คน

ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นการอภิปรายในส่วนของ คำปรารภ ของร่าง พ.ร.บ. โดย นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้เสนอให้มีการปรับลดวงเงิน จาก 2 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาท ว่า รัฐบาลควรใช้การเงินในงบประมาณรายจ่ายประจำปี หากไม่เพียงพอ สามารถออกพระราชกำหนดกู้เงินเพิ่มเติม ที่คล้ายคลึงกับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ พ.ร.ก.ไทยเข้มแข็งเพิ่มเติมได้ ไม่ควรเริ่มต้นกู้เงินนอกเหนือจากงบประมาณ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ถือเป็นการเริ่มขั้นตอน

ขณะที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้แก้ไขวงเงิน จาก 2 ล้านล้านบาท เป็นไม่เกิน 2 แสนล้านบาท เนื่องจากเห็นว่า หากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และไม่ครอบคลุมทุกเส้นทาง อีกทั้งเห็นว่า รัฐบาลมีหนี้สาธารณะเพิ่มจาก ปี 2554 แล้วกว่า 1 ล้านล้านบาท อยู่แล้ว โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกู้เงินในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหากรัฐบาลกู้ครั้งนี้เพิ่มอีก จะส่งผลให้ ยอดหนี้สาธารณของประเทศสูงกว่า 60% อย่างแน่นอน ล่าสุด ที่ประชุมได้ลงมติผ่าน คำปรารภของร่าง ด้วยคะแนน 289 ต่อ 123 งดออกเสียง 17 คะแนน ไม่ลงความเห็น 3 คะแนน

 

 

-----------------------------------------------

ปธ.วิปรัฐยันถกสภากู้2ลล.ไม่รวบรัด สุริยะใส ย้ำฟ้องศาล

 http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=480746


 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook