ผวาจระเข้30ตัวหลุดฟาร์มศรีสะเกษ-เจ้าพระยาน้ำสูง

ผวาจระเข้30ตัวหลุดฟาร์มศรีสะเกษ-เจ้าพระยาน้ำสูง

ผวาจระเข้30ตัวหลุดฟาร์มศรีสะเกษ-เจ้าพระยาน้ำสูง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วม 4 อำเภอ ใน จ.ศรีสะเกษ บ้านเรือน 500 หลัง จมน้ำ จระเข้หลุดจากฟาร์ม 30 ตัว เตือนประชาชนระวังอันตราย ขณะเจ้าพระยาน้ำสูงเสนาอยุธยาอ่วม ผบก.อยุธยา ตั้งศูนย์ ฉก. ดูน้ำท่วม ตลอด 24 ช.ม.

ขณะนี้ มวลน้ำจำนวนมหาศาลจากเทือกเขาพนมดงรัก เทือกเขาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ล้นเขื่อนห้วยติ๊กชู เขื่อนห้วยศาลา และเขื่อนห้วยตาจู ได้ไหลทะลักลงมาตามลำห้วยสำราญ เข้ามาท่วมบ้านเรือน และไร่นาของชาวบ้าน 4 อำเภอ คือ อ.ขุขันธ์ อ.ปรางค์กู่ อ.วังหิน และ อ.อุทุมพรพิสัย ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านจำนวน 500 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องขนข้าวของ ทรัพย์สิน ของมีค่า และสัตว์เลี้ยงหนีน้ำ  

นายสุริยันต์ ศรีผุย ผอ.ศูนย์บำรุงทางหลวงชนบท อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า มีจระเข้ จำนวน 30 ตัว หลุดออกมาจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเขต ต.ตูม อ.ปรางค์กู่ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.56 ที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำท่วมฟาร์ม ทำให้จระเข้หลุดหนีออกมาจากฟาร์มตามกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก โดยจระเข้แต่ละตัวจะมีความยาวประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งขณะนี้ ชาวบ้านและเจ้าของฟาร์มได้ช่วยกันจับจระเข้ได้แล้ว 4 ตัว ยังเหลือที่จับไม่ได้อีก 26 ตัว ซึ่งเจ้าของฟาร์มกำลังเร่งออกตามล่าจับจระเข้ จึงมีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานดูแลถนนที่ถูกน้ำท่วม ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจับจระเข้

 

น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงแต่ยังไม่วิกฤติ

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ยังต้องติดตามสาเหตุที่ส่งผลต่อระดับน้ำ 3 ส่วน คือ ปริมาณน้ำฝนตกท้ายเขื่อน ปริมาณน้ำที่เกษตรกรระบายออกจากพื้นที่เพื่อเริ่มเก็บเกี่ยว และระดับน้ำทะเลที่ปรับเปลี่ยน เนื่องจากทั้ง 3 ปัจจัย เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง และยังสามารถระบายน้ำได้ตามปกติ แต่อาจส่งผลกับประชนริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่ม โดยที่ จ.พระนครศรีอยุธยา น่าเป็นห่วงมากที่สุด โดยมีแนวคิดจะยกระดับที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ให้สูงขึ้น ซึ่งในระยะ 150 ปี ที่ผ่านมา บ้านเรือนใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการยกบ้านสูงตามระดับน้ำมาแล้ว 3 ครั้ง

ส่วน นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักงาน นโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) กล่าวว่า จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า พายุที่จะพัดผ่านได้เปลี่ยนแปลงเส้นทางไปยังเวียดนามและฮ่องกงแล้ว ส่วนน้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้ ประมาณ 144 เซนติเมตร ซึ่งต่ำกว่าระดับตลิ่ง 40 เซนติเมตร ทำให้สถานการณ์โดยรวมของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังไม่น่าเป็นห่วง

 

ปภ.อยุธยา สรุปปริมาณน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในวันนี้ (22 ก.ย.) พบว่า เขื่อนเจ้าพระยา ระบายอยู่ที่ 1,912 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านอ่างทอง 1,942 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านบ้านป้อม พระนครศรีอยุธยา 990 เพิ่มขึ้น 78 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านคลองโผงเผง 630 คลองบางบาล 170 เพิ่มขึ้น 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีผลทำให้แม่น้ำป่าสักมีระดับน้ำสูงขึ้นอีก 50-80 เซนติเมตร ประกอบกับเขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำอยู่ที่ 550-600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ในขณะเดียวกัน บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก บริเวณหน้าศาลแขวงอยุธยา มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง น้ำไหลเข้าท่วมชั้นล่าง เจ้าของบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง ซึ่งประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่ง น้ำจะท่วมเช่นนี้เป็นประจำทุกปี ส่วนที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านบริเวณหน้าวัด เริ่มไหลเอ่อเข้าท่วมวัดแล้ว หลังจากที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องวันละ 10-20 เซนติเมตร ทำให้ทางวัดต้องรีบเร่งป้องกันน้ำที่ไหลเข้าท่วมแล้ว

 

สุรินทร์น้ำท่วมสูงระดับอก-จนท.เร่งระบาย

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลังถูกประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว จำนวน 15 อำเภอ 98 ตำบล 1,227 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 17 อำเภอ หลายอำเภอน้ำได้ลดระดับลงแล้ว

นายเจษฎา บุญสุยา ผอ.โครงการชลประทานสุรินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงตอนนี้ มีน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับคันดินประมาณ 52 ซม. อยู่ในสถานการณ์คงที่ เปิดบานระบายที่ 3 เมตร ระบายน้ำประมาณวันละ 18 ล้าน ลบ.ม. อ่างมีความมั่นคงจะไม่แตกแน่นอน ชาวบ้านละเอาะ หนองเต่า เฉลิมพระเกียรติ และ บ้านถ่าน ได้รับผลกระทบหนัก ระดับน้ำบางจุดท่วมหัว บางจุดระดับหน้าอก ได้นำเรือยนต์และเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือ และมีทหารนำรถบรรทุกเข้ามาช่วยให้ชาวบ้านไปอยู่ที่เหมาะสมไม่ให้เดือดร้อนแล้ว คาดว่า อีก 3 วันเอาอยู่หากฝนไม่ตกซ้ำ หลังนำรถแบคโฮ 4 คัน เร่งขุดเปิดทางน้ำกว้าง 10 เมตร พร้อมกั้นน้ำหน้าราชภัฏไม่ให้ไหลเข้าท่วมตัวเมืองซ้ำสอง

 

นายกฯ สั่งทหารเร่งช่วยเหลือ ปชช.อย่างเต็มที่

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวถึงสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น ที่ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ส่งผลให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ จนทำให้หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ได้รับผลกระทบจากดินโคลนถล่มและน้ำล้นตลิ่ง กว่า 15 จังหวัด

โดย พ.อ.ธนาธิป เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความห่วงใยประชาชน ซึ่งสั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยทหารพัฒนาและศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเหล่าทัพ เร่งให้การสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ ทั้ง 15 จังหวัด ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16-22 กันยายน กระทรวงกลาโหม ได้จัดกำลังพลจำนวนทั้งสิ้น 1,500 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ อาทิ รถยนต์บรรทุก 35 คัน รถยนต์โกยตัก จำนวน 5 คัน รถลากจูง 3 คัน เรือท้องแบน 29 ลำ ช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

 

สำนักชลฯโคราชเร่งระบายน้ำท่วมสูงหลายอำเภอ

ภายหลังจากในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำภายในลำคลอง ตั้งแต่พื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้มีปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกท้ายอ่างเก็บน้ำ อีกทั้ง ในหลายพื้นที่ได้มีการระบายน้ำลงมาภายในลำน้ำลำตะคอง ทำให้เจ้าหน้าที่เขื่อนระบายน้ำบ้านคนชุม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ทำการยกบานประตูระบายทั้ง 3 บาน ให้มีระดับที่สูงกว่าผิวน้ำ ประมาณ 1 เมตร เฉลี่ยมีปริมาณนำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำอยู่ที่ 33 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทั้งนี้ เพื่อเร่งระบายน้ำในลำน้ำลำตะคอง และเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหญ่กว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่กำลังไหลมาเพิ่มเติมจากพื้นที่ อ.สีคิ้ว และ อ.สูงเนิน ในช่วงค่ำนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้สั่งการให้เขื่อนระบายน้ำทุกเขื่อน ได้มีการเปิดบานประตูระบายให้สูงกว่าระดับน้ำที่ไหล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

ขณะที่ ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกติดตามสถานการณ์น้ำ ภายในลำน้ำที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของ จ.นครราชสีมา เพื่อรายงานสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยล่าสุด พบว่า ปริมาณน้ำภายในลำน้ำลำตะคอง ช่วงบริเวณถนนมิตรภาพ ซอย 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นคราชสีมา มีปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ห่างจากขอบตลิ่งเพียง 20-30 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ก็ยังส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ เริ่มมีปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมแล้วหลายหลังคาเรือน

 

จนท.สุรินทร์เร่งขนย้ายปชช.หนีน้ำท่วม

หลังจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำอำปึล และอ่างเก็บน้ำห้วนเสนง มีมวลน้ำจำนวนมากเกินจะกักเก็บเอาไว้ได้ จำเป็นต้องระบายออกเร่งด่วน มวลน้ำมหาศาล เข้าท่วมบ้านละเอาะ-บ้านหนองเต่า ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ จมบาดาลกว่า 500 หลังคาเรือน มีชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนกว่า 1,500 คน ขณะนี้ ทหารและกู้ภัย เร่งขนย้ายชาวบ้านผู้ประสบภัย ไปพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่สโมสรนายทหาร ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์

จ.ส.อ.พีรพรรณ สระทองอิน ทหารจาก จทบ.สุรินทร์ กล่าวว่า นำทหารมาช่วยเหลือชาวบ้านละเอาะ-หนองเต่า จำนวน 100 นาย เพราะน้ำท่วมมากที่สุด แบ่งออกช่วยเหลือประชาชนเป็น 4 ชุด ชุดละ 12 นาย มีเรือ 4 ลำ แต่ละชุดก็จะมีหัวหน้าควบคุม งานหลักๆ ก็ช่วยย้ายของขึ้นที่สูง ลำเลียงราษฎรกว่า 500 หลังคาเรือน ออกมาให้ไปพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่สโมสรนายทหาร ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ ให้เร็วที่สุด

 

เพชรบูรณ์น้ำป่าไหลท่วมหลายหมู่บ้าน

สถานการณ์น้ำท่วม ที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งล่าสุด น้ำป่าจากเทือกเขาตะเบาะ ในเขต ต.น้ำร้อน อ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้ไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และ หมู่ที่ 7 โดยเฉพาะหมู่ที่ 3 ระดับน้ำท่วมสูงราว 80-100 เซนติเมตร ทำให้ราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ ในขณะที่อีกหลายสิบหลังคาเรือน ต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 ทำให้ไม่สามารถออกจากบ้านพักได้ นอกจากนี้ ชาวนายังต้องเร่งเกี่ยวข้าว ซึ่งขณะนี้ถูกน้ำท่วม

อย่างไรก็ตามขณะนี้ นายกฤษณ์ คงเมือง นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ประสบภัย โดยมีกำลังทหารจากกองพันทหารม้าที่ 26 เพชรบูรณ์ นำเรือท้องแบนเข้าช่วยราษฎรที่ได้รับผลกระทบแล้ว


นักประดาน้ำนำร่างด.ช.ป.5ขึ้นฝั่งหลังน้ำพัดจม

ที่ จ.อำนาจเจริญ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ร.ต.ท.สรศักดิ์ สุโพธิ์ ร้อยเวร สภ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ แจ้งว่า นักประดาน้ำจาก จ.อุบลราชธานี ที่เดินทางมาช่วยกันงมหาศพ ด.ช.สาธิต นักเรียนชั้น ป.5 ที่ลงเล่นน้ำ บริเวณลำห้วยนาดูน ในท้องที่ ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ กับเพื่อนๆ แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 21 ก.ย. แต่เนื่องจากไม่มีนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลืออำนาจ ได้ประสานขอจาก จ.อุบลราชธานี มาช่วย ได้อุ้มร่างของน้องผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาสำเร็จ หลังใช้เวลานานตลอดทั้งคืน ห่างจากจุดที่พลัดตกไปประมาณ 150 เมตร ติดอยู่กับซากตอไม้ลึกกว่า 5 เมตร แม่และญาติๆ ได้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

และอีกด้านหนึ่ง เมื่อกลางดึก บริเวณทางเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอำนาจเจริญ หรือ บขส. น้ำได้เอ่อท่วมถนนปากทางเข้าออก สูงกว่า 80 ซม. ไหลบ่าท่วมเข้าไปในบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง สินค้าจำพวกปูนซีเมนต์ เสียกว่า 250 กระสอบ และที่ด้านหน้า ร.พ.อำนาจเจริญ น้ำไหลลงห้วยหมูด้านหน้าโรงพยาบาลไม่ทัน ได้ท่วมถนนสูงกว่า 1 ม. คนไข้ รถยนต์ทุกชนิด ผ่านเข้าออกโรงพยาบาลอย่างลำบาก ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น จนกระทั่งเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่เทศบาล จึงสามารถสูบออกระบายได้หมด

ในขณะที่ นางนิภาภรณ์ ชื่นวาริน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมกรรมการสมาชิก ได้ออกไปช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกน้ำท่วมเบื้องต้นแล้วหลายครอบครัว ใน ต.บุ่ง อ.เมือง


ผบก.อยุธยาตั้งศูนย์ ฉก. ดูน้ำท่วมตลอด24ช.ม.

พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้สถานีตำรวจในสังกัด ที่รับผิดชอบในพื้นที่น้ำท่วมโดยตรง และพื้นที่ได้รับผลกระทบ จากภาวะน้ำล้นตลิ่ง ในเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือน้ำท่วม ขึ้นในทุกโรงพัก ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเน้นการเพิ่มสายตรวจเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของชาวบ้าน ที่ขนย้ายหนีน้ำขึ้นมาบนถนนคันคลองชลประทาน รวมถึง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่จอดหนีน้ำท่วมอย่างเข้มงวด

พร้อมให้ประสานงานฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครในชุมชน จัดสายตรวจทางเรือ ออกตรวจบ้านเรือนริมน้ำ ซึ่งเจ้าของบ้านย้ายไปพักอาศัยที่อื่นชั่วคราวด้วย

 

ระดับน้ำท่วม จ.อ่างทอง เพิ่มสูงขึ้นใกล้วิกฤติแล้ว

ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง พบว่า มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่า 30 เซนติเมตร โดยระดับน้ำหน้าศาลากลางจังหวัด วันนี้อยู่ที่ 7.50 เมตร แต่ระดับท่อระบายน้ำบริเวณศาลากลางอยู่ที่ 8.00 เมตร ถ้าฝนตกลงมาก็จะเกิดน้ำท่วมขัง ต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออก

จากการสอบถาม ผอ.สำนักงานชลประทานอ่างทอง โดยระดับวิกฤติบริเวณหน้าศาลากลาง อยู่ที่ 9.32 เมตร น้ำก็จะล้นตลิ่ง แต่ยังมีพนังกั้นน้ำที่ยังสามารถรับน้ำได้อยู่ถึง 10.00 เมตร วันนี้เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำ ที่ 1,875  ลบ.ม./วินาที หากปล่อยน้ำมาประมาณ 2,500 ลบ.ม./วินาที ก็จะเกิดวิกฤตในพื้นที่บริเวณ อ.ไชโย อ.เมือง และ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก และยังได้ฝากเตือนประชาชนให้คอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเก็บข้าวของให้พ้นน้ำ ส่วนพื้นที่ อ.โผงเผง ได้ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 172 ครัวเรือน


น้ำท่วมปราจีนฯอ่วมหนัก4อำเภอ

น.ส.จิตรา พรหมชุติมา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี ขณะนี้ มีน้ำท่วมรวม 4 อำเภอ อ.กบินทร์บุรี อ.นาดี อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.เมืองปราจีนบุรี ความคืบหน้าล่าสุด มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเกินภาวะวิกฤติแล้ว 25 เซนติเมตร วัดที่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี จุดไหลบรรจบรวมกัน ระหว่างแควพระปรง ที่น้ำไหลมาจาก จ.สระแก้ว กับแควหนุมาน น้ำไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ตลาดเทศบาล ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี โดยน้ำท่วมชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ ที่ตั้งอยู่ริมต้นแม่น้ำปราจีนบุรี ระดับน้ำสูงเกิน 1 เมตร และในวันนี้ ได้ขนย้ายนักโทษจากเรือนจำกบินทร์บุรี ไปที่แห่งอื่นอีกด้วย

 

สุรินทร์พบผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยแล้ว3ศพ

ขณะนี้ จ.สุรินทร์ มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์มหาอุทกภัยแล้ว จำนวน 3 ศพ ประกอบด้วย นางบัวศรี ชะลี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 บ้านหม่อนไหมพัฒนา หมู่ที่ 12 ต.แจนแวน อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ จมน้ำตาย เนื่องจากออกหาปลา บริเวณคลองส่งน้ำคูคาดตะวันออกบ้านหม่อนไหมพัฒนา หมู่ 12 ต.แจนแวน อ.ปราสาท มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย คือ นางอรุณ ศรีพรมทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 4 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท สาเหตุจมน้ำตาย เนื่องจากออกหาปลาบริเวณหนองน้ำบ้านจำใสจารย์ ต.ทุ่งมน และ นายจันทร์ เติมสุข อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 7 บ้านสะพานหัน ต.ทุ่งมน สาเหตุจมน้ำตาย เนื่องจากออกหาปลา สถานที่เกิดเหตุทุ่งนาบ้านทุ่งมน


 

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=481466


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook