กลุ่มเพื่อนเนวิน แถลงเปิดใจ เหตุย้ายร่วม ภูมิใจไทย วันนี้
กลุ่มเพื่อนเนวิน เผย จะแถลงเปิดใจ สาเหตุย้ายเข้าร่วม พรรคภูมิใจไทย เวลา 10.00 น.วันนี้(14ม.ค.) ศุภชัย ปัดขยายอำนาจต่อรองรัฐบาล
(14ม.ค.) นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม และแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ ว่า ทางกลุ่มจะแถลงเปิดใจสาเหตุเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย เวลา 10.00 น.วันนี้ ที่โรงแรมสยามซิตี้ เพื่อแสดงความชัดเจนในย้ายเข้าสังกัดภูมิใจไทย โดยจะมีแกนนำพรรคภูมิใจไทยมาคอยต้อนรับและเข้าร่วมประชุมด้วย และจะกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เลือกหัวหน้าและเลขาธิการพรรคต่อไป ทั้งนี้บุคลคนที่คาดว่าจะได้รับการพิจารณาให้เป็นหัวหน้าพรรคนั้น คิดว่าคงเป็นไปตามที่สื่อคาดการณ์ว่าจะเป็นนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เป็นบุคคลที่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ในแวดงวงการเมืองมานาน มีประสบการณ์การทำงานในหลายตำแหน่งทั้งรองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข เป็นต้น
ส่วนที่มีรายชื่อของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯนั้น ตนทราบว่านายชัย ต้องการทำหน้าที่ประธานสภาฯมากกว่า สำหรับตำแหน่งเลขาธิการพรรค คงจะมาจากกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน คือนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พานิชย์ ที่มีการวางตัวไว้ในเบื้องต้น
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตสาเหตุที่กลุ่มเพื่อนเนวิน สนับสนุน นายชวรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค มาจากเรื่องทุนนายศุภชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่ ตนคิดว่าถ้านายชวรัตน์ได้รับเลือกเป็นหัวหน้า คงมาจากความสามารถของนายชวรัตน์ ไม่ใช่ประเด็นอื่นไม่อยากให้วิจารณ์ในมุมที่ไม่ดี
เมื่อถามว่า เมื่อ ส.ส.มารวมตัวที่พรรคภูมิใจไทยจนมีส.ส.ในมือมากขึ้นทำให้มีอำนาจต่อรองทางการเมืองเพิ่มขึ้น นายศุภชัย กล่าวว่า เหตุผลหลักที่กลุ่มเพื่อนเนวิน และกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รวมตัวกัน เพราะต้องการทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน ไม่ใช่รวมตัวเพื่อหวังต่อรองทางการเมือง เนื่องจากรัฐมนตรีที่มาจากกลุ่มเพื่อนเนวิน และพรรคร่วมได้ทำงานตามความถนัดในกระทรวงต่างๆแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปเรียกร้องตำแหน่งเพิ่มเติม
ซึ่งขณะนี้จำนวนเสียงส.ส.เมื่อรวมกันแล้วมีประมาณ 35 เสียง อย่างไรก็ตามเป้าหมายสำคัญอีกประการคือต้องรวมตัวกันเพื่ออนาคตทางการเมืองหากมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น พรรคภูมิใจไทยก็จะมีความพร้อมในการทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
นายศุภชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก โทรศัพท์ มายังแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ว่า ต้องการย้ายมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพราะไม่อยากเป็นฝ่ายค้านยาว อีกทั้งพิจารณาจากผลการเลือกตั้งซ่อมที่พรรคเพื่อไทยต้องแพ้เลือกตั้งในหลายพื้นที่อีกแต่ติดขัดในข้อกฎหมายที่ห้ามไว้ ซึ่งสาเหตุที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยระบุเช่นนี้เพราะเห็นว่าการบริหารภายในพรรคเพื่อไทยมักมีปัญหาตลอด เหมือนการบริหารแบบงูเก็งกองไม่รู้ว่าจะมีทิศทางทำงานการเมืองอย่างไร หรืออาจเปรียบส.ส.เหมือนตุ๊กตาไขลาน ที่เดินหน้าแบบไม่มีจุดหมาย