ตุ๋ย มนฤดี เผยเหตุโดนลอบปองร้าย
จากเหตุการณ์อดีตนางเอกสาว ตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย โดนคนตามปองร้ายมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อพี่สาวไปมีคดีความกับบุคคลอื่น จากนั้นมาก็มีคนตามไปเวลาที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดกับพี่สาว และนอกจากนี้ยังถูกเจาะยางรถอีกด้วย เกิดความหวาดกลัวอย่างมาก
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) "ตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย" พร้อมพี่สาว "เสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์" ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ บริษัท โอสถสภา จำกัด โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.หัวหมาก แล้วเพื่อความสบายใจ
ด้าน นางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ เปิดเผยว่า การที่ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อความสบายใจ เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ขอบอกไม่ได้มีเรื่องกับใคร ตำรวจจะได้สันนิษฐานว่าตนแค่คดีความกับ "คุณชินเวศ สารสาส" อดีตสามีกรณีการฟ้องหย่าและแบ่งสินสมรสเท่านั้น
ซึ่งคดีความล่าสุดเมื่อวันที่ (18 ก.ย.) นางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีและธนาคารทหารไทย 2 สาขา หลังพบว่าปลอมแปลงเอกสารสัญญาค้ำประกันเงินกู้ จำนวนเงินมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านบาท โดยธนาคารรับทราบแล้วว่าใช้ลายเซ็นปลอมแต่ยังอนุมัติ
นางเสาวณีย์ โอสถานุเคราะห์ ทายาทเจ้าของบริษัทในเครือโอสถสภา พร้อม นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกับ นายชินเวศ สารสาส สามีพร้อมพวก และธนาคารทหารไทย สาขาปทุมวันและสาขาสยามสแควร์ ฐานสมรู้ร่วมคิด จัดทำเอกสารปลอม และใช้เอกสารปลอม ในการที่จะให้เกิดความเสียหายแก่ตน
โดยอ้างว่า นายชินเวศ กับพวกปลอมแปลงสัญญาค้ำประกัน ซึ่งมีลายมือชื่อและเอกสารปลอม ลงชื่อ นางเสาวณีย์ เป็นจำนวนเงิน 1,400 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโรงแรมป่าเกาะ จำนวน 500 ล้านบาท และโครงการของบริษัทเซ็นต์หลุยส์ โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นจำนวนเงิน 900 ล้านบาท จึงทำให้นางเสาวณีย์ได้รับความเสียหายและตกเป็นหนี้ร่วมกับนายชินเวศ ซึ่งก่อนหน้านี้ นางเสาวณีย์ซึ่งอยู่ในระหว่างฟ้องหย่ากับนายชินเวศ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้ส่งเอกสารสัญญาดังกล่าวไปตรวจสอบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และมีรายงานผลการตรวจพิสูจน์พบว่าเป็นเอกสารปลอม จึงได้แจ้งไปยังธนาคารทหารไทยทั้ง 2 สาขา แต่ยังคงมีการอนุมัติเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายชินเวศ ตนจึงต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี