รองผู้ว่ากทม.ตรวจความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำ
รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว พร้อมระบุเร่งระบายน้ำ เตรียมเครื่องปั่นไฟหากเกิดไฟดับ
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว บริเวณบึงพระราม 9 เขตห้วยขวาง โดย สำนักการระบายน้ำ ได้รายงานความพร้อมและประสิทธิภาพของอุโมงค์ระบายน้ำสามารถรองรับน้ำจากทั้ง 2 คลอง ซึ่งเป็นคลองสายหลักสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งพระนคร ที่ช่วยระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยคลองแสนแสบ จะช่วยรับน้ำจากด้านตะวันออก และคลองลาดพร้าว รับน้ำจากพื้นที่ตอนบน ลงมาบรรจบกันที่ปากอุโมงค์บริเวณบึงพระราม 9 ผ่านอุโมงค์ใต้ดินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร ลึก 25 เมตร ลอดใต้แนวคลองแสนแสบ คลองตัน ซอยสุขุมวิท 71 ถนนสุขุมวิท คลองพระโขนง สิ้นสุดที่สถานีสูบน้ำพระโขนง สูบออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ความยาวรวมประมาณ 5,116 เมตร มีกำลังสูบน้ำได้ 60 ลบ.ม./วินาที สถานีที่ต้นทางบริเวณบึงพระราม 9 และสถานีปลายทางพระโขนง มีเครื่องสูบ 4 เครื่อง ขณะนี้เปิดเดินเครื่องสูบน้ำเพียง 2 เครื่อง ช่วงฝนตกหนักตลอดทั้งวัน เปิดเครื่องทั้ง 4 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เขตบางกะปิ วังทองหลาง สะพานสูง ลาดพร้าว บึงกุ่ม ห้วยขวาง และพื้นที่ใกล้เคียงครอบคลุม 150 ตร.กม.
ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า แม่น้ำเจ้าพระยา มีขีดความสามารถในการรับน้ำได้ไม่เกิน 3,000 ลบ.ม./วินาที ถ้าเกินกว่านี้จะเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง สำนักการระบายน้ำ ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่คลองต่างๆ รองรับน้ำเหนือที่กำลังลงมา พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำ สูบน้ำออกตลอด 24 ช.ม. และเตรียมเครื่องปั่นไฟพร้อมหากเกิดเหตุไฟดับ ก็สามารถเดินเครื่องสูบน้ำได้ไม่เกิดน้ำท่วมขัง