อภิสิทธิ์แย้มจ่อปรับโครงสร้างพรรคปชป.
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดสัมมนาสาขาพรรคภาคใต้ เน้นสร้างความเข้มแข็ง เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง แย้ม จ่อปรับโครงสร้างพรรคประชาธิปัตย์ คาดนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้ในสัปดาห์หน้า ขอบคุณสาขาภาคใต้ ยืนหยัดคู่ ปชป.
บรรยากาศการสัมมนาโครงการเสริมสร้างและพัฒนาสาขาพรรค ภาคใต้ ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดสัมมนาอย่างเป็นทางการแล้ว และจะร่วมบรรยายด้วย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในทุกสาขาพรรค เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป นอกจากนี้ มี นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ร่วมบรรยายพิเศษ เรื่อง การยึดอำนาจของระบอบทักษิณ จากนั้น จะมีการแบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิดแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ปัญหา แบ่งออกเป็น ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ราคากุ้งและพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพง ทั้งนี้ จะปิดการสัมมนาโดย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
"อภิสิทธิ์" แย้ม จ่อปรับโครงสร้างพรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างพรรค ว่า ขณะนี้ ได้ร่างและออกแบบโครงสร้างพรรคเสร็จแล้ว คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้ในสัปดาห์หน้า จากนั้น นำเข้าหารือที่ประชุมพรรค ก่อนที่จะส่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อรับรองโครงสร้างใหม่ของพรรค
'อภิสิทธิ์' ขอบคุณสาขาภาคใต้ ยืนหยัดคู่ ปชป.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบรรยายระหว่างการเปิดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการสาขาพรรค เจ้าหน้าที่สาขาพรรค และคณะทำงานในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขอชื่นชมชาวภาคใต้ที่ยังมีความเหนียวแน่นในการยืนหยัดต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้กล้าใช้อำนาจทำหลายสิ่งที่ทั้งขัดต่อกฎหมาย และขัดต่อหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีความพยายามของฝ่ายรัฐบาล
ในการใช้อำนาจกับเงิน เพื่อกดขี่ทางความคิดของชาวภาคใต้มาโดยตลอด
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงบทบาทของฝ่ายค้านว่า ปัจจุบันต้องยอมรับถึงปัญหาประชาชนมีมาก โดยเฉพาะ
เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง อาทิ ภัยพิบัติ ปัญหาการเมือง โดย 2 ปีที่ผ่านมา ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา และไม่สามารถทำตามความหวังที่สร้างไว้ให้กับประชาชนในทุกเรื่อง