นายกฯบินบาหลียันปรับครม.รอเวลาเหมาะสม

นายกรัฐมนตรี ยัน ปรับคณะรัฐมนตรี รอเวลาเหมาะสม ระบุ ส่งกระเช้าให้กำลังใจ 'ร.ต.อ.เฉลิม' หายป่วย ขณะที่ เอแบคโพล เผย ปชช.เห็นว่ายังไม่ควรปรับ ครม. หนุนโละ ก.พาณิชย์ ด้าน เพื่อไทย ย้ำ เป็นอำนาจนายกฯ ไม่เกี่ยวกับ 'พ.ต.ท.ทักษิณ'

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ในช่วงนี้ ว่า จะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเหตุการณ์จำเป็น แต่ส่วนตัวไม่อยากให้มีการปรับ ครม. บ่อยครั้ง
เพราะอยากให้มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงยังไม่ทราบว่าจะปรับเมื่อใด ส่วนกระแสดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ เพราะมีบางตำแหน่งที่ประชาชนคาดหวังในทางที่ดีและไม่ดี แต่เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี ที่จะต้องทำงานให้เต็มที่ อีกทั้ง การปรับ ครม. ต้องประเมินผลการทำงาน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า การปรับ ครม. ไม่เกี่ยวกับอาการป่วยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงแรงงาน และได้ให้กำลังใจ ร.ต.อ.เฉลิม หายป่วยเร็วไว พร้อมได้ฝากให้ น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมส่งกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยมแล้ว

 

พท.ย้ำปรับครม.อำนาจนายกฯ-ปัดทักษิณจุ้น

นายพร้อมพง์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล จะยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในขณะนี้แน่นอน แล้วการปรับคณะรัฐมนตรี ก็เป็นอำนาจของ นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งข่าวที่ออกมานั้น น่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง และขอให้ พรรคประชาธิปัตย์ ยุติการสร้างกระแสด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้ รัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังระบุด้วยว่า จะมีการประชุม ส.ส. ของพรรค ในวันอังคาร ที่ 8 ต.ค.นี้ เพื่อหารือเรื่องปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ พร้อมจะกำชับให้ ส.ส. ลงพื้นที่ นำปัญหาของประชาชนมาสะท้อนต่อรัฐบาล นำไปแก้ไขต่อไป

 

ABACโพลยังไม่ควรปรับครม.แนะนายกคิดเอง

สำนักวิจัยเอแบคโพล เผยผลสำรวจเรื่อง ความพึงพอใจของประชาชนต่อผลงานรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และข่าวลือการปรับ ครม. จากประชาชน 1,885 ตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 60.9 คิดว่าข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องจริง ร้อยละ 56.6 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ควรจะปรับคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ เพราะเพิ่งปรับมาไม่นาน ควรให้โอกาสรัฐมนตรีในการทำงานก่อน จะทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องในการทำงาน และคงไม่มีอะไรดีขึ้น และร้อยละ 70.4 คิดว่าวัตถุประสงค์หลักต่อข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ส่วนร้อยละ 28.3 เห็นว่า กระทรวงพาณิชย์ ควรจะปรับมากที่สุด หากมีการปรับ
ครม.จริง

นอกจากนี้ ร้อยละ 56.0 คิดว่าถ้ามีการปรับ ครม. เสถียรภาพของรัฐบาลก็ยังหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 63.4 คิดว่าข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะเป็นการแทรกแซงการทำงานของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ร้อยละ 70.2 คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรมีบทบาทสำคัญ แสดงความเป็นผู้นำ และตัดสินใจด้วยตัวเอง ในฐานะผู้นำประเทศ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 51.7 มีความพึงพอใจในผลงานรัฐบาลโดยภาพรวม ในระดับปานกลาง และร้อยละ 69.0 คิดว่ารัฐบาลจะสามารถทำงานต่อไปจนครบวาระได้ยาก เพราะมีผลจากนโยบายพ่นพิษของรัฐบาล ความขัดแย้งทางการเมืองและมวลชน และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น