สระเเก้วอ่วม-อ.ราชสาส์น ฉะเชิงเทราน้ำยังเพิ่ม

สระเเก้วอ่วม-อ.ราชสาส์น ฉะเชิงเทราน้ำยังเพิ่ม

สระเเก้วอ่วม-อ.ราชสาส์น ฉะเชิงเทราน้ำยังเพิ่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สระเเก้ว ยังอ่วม ด้าน จ.ฉะเชิงเทรา น้ำยังเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อ.ราชสาส์น ณะที่ขณะที่ มวลน้ำจ่อหลาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซ้ำอีกรอบ ปภ.สรุปสถานการณ์อุทกภัย 28 จว. เสียชีวิตรวม 34 ราย

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงน่าเป็นห่วง น้ำยังไหลท่วมถนนสายหลัก หมายเลข 317 จังหวัดจันทบุรี-สระแก้ว บริเวณบ้านเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ มีระดับสูง รถไม่สามารถผ่านไป-มาได้ รวมทั้ง น้ำยังเข้าท่วมถนนตัดใหม่สายอรัญประเทศ-เขาหินซ้อน บริเวณบ้านสระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และอีก 1 เส้นทาง คือ ถนนสายหลัก ทางหลวงหมายเลข 33 จังหวัดสระแก้ว-กบินทร์บุรี บริเวณศูนย์มาสด้า เขตเทศบาลเมืองสระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 80 ซ.ม. ซึ่งเป็นถนน 4 เลน รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านไป-มาได้ทั้ง 4 เลน

ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วม จ.ฉะเชิงเทรา ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อ.ราชสาส์น บางจุดน้ำลึกกว่า 2 เมตร ทำให้ชุมชนหลายแห่งถูกตัดขาด

 

สระแก้ว อ่วม! มวลน้ำจ่อหลากกบินทร์ ซ้ำอีกรอบ

นายประสิทธิ์ โฉมศรี ปลัดอำเภอเมืองสระแก้ว รักษาราชการแทนนายอำเภอ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.เมือง จ.สระแก้ว กลับมาวิกฤติอีกครั้ง หลังมวลน้ำจาก อ.เขาฉกรรจ์ หลากมาแบบไม่มีทิศทาง เข้าโจมตีพื้นที่ ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถนนสายหลัก 2 สาย คือ ถนนสาย 33 สุวรรณศร จาก กบินทร์บุรี - สระแก้ว และถนนสาย 359 เขาหินซ้อน - สระแก้ว ต้องปิดการจราจรตัว อ.เมือง ต้องถูกตัดขาดโดยปริยาย

ขณะที่น้ำในคลองพระสะทึง ล้นตลิ่งเข้าพื้นที่ ต.สระขวัญ ม.2, 6, 7 และ 11 มวลน้ำก้อนนี้มุ่งเข้าท่วม ต.ศาลาลำดวน ส่วนอีกสายจาก อ.วัฒนานคร น่ำที่ล้นเขื่อนพระปรง เข้าท่วมพื้นที่ ต.ท่าเกษม ต.หนองบอน ต.ท่าแยก โดยเฉพาะ ริมคลองพระปรง โดยมวลน้ำก้อนน้ำจะหลากท่วม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ต่อไป

 

พนัสนิคมอ่วม!จม1เมตร-จับตานิคมอมตะนคร

สถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดชลบุรี เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในหลายอำเภอ โดยเฉพาะ อ.พนัสนิคม ยังพบว่า มีหลายจุดที่เกิดน้ำท่วมขัง มีระดับความสูงของน้ำเฉลี่ย ประมาณ 1 เมตร อย่างไรก็ตาม นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สั่งการให้นายอำเภอ ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น เร่งช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้น และหาทางเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำทะเลจะหนุน นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ประสานข้อมูลกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งอยู่ใกล้กับ อ.พนัสนิคม ให้หมั่นตรวจสอบระดับน้ำ และเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รองรับสถานการณ์น้ำที่อาจทะลักเข้าไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโรงงานอุตสาหกรรม

 

กรมทรัพยากรฯเตือนระวังดินถล่มหลายจว.

กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี และประชาชนทั่วไป พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลำปาง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และ ภูเก็ต เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2556 โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย อ.ฝาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่, อ.เมือง อ.ห้างฉัตร อ.เมืองปาน จ.ลำปาง, อ.เขาสอยดาว อ.เขาคิชฌกูฏ อ.ขลุง จ.จันทบุรี, อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด, อ.แก่งกระจาน อ.หนองหญ้าปล้อง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี, อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขีนธ์, อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.พะโต๊ะ อ.ละแม จ.ชุมพร, อ.เมือง อ.ละอุ่น อ.กะเปอร์ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง, และ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา

เนื่องจากมีฝนตกหนักและตกต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตร และมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในบางพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ ให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัย ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก และวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังที่ได้มีการอบรมไว้แล้ว

 

ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม28 จว.เสียชีวิต34

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัย ปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2556 ยังคงมีสถานการณ์ 28 จังหวัด (เพิ่ม 2 จังหวัด เชียงใหม่, ระยอง) 182 อำเภอ 1,097 ตำบล 8,115 หมู่บ้าน 561,737 ครัวเรือน 1,981,645 คน อพยพ 5,833 ครัวเรือน 18,699 คน (อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สระแก้ว) จังหวัดที่คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด (กาญจนบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, กาฬสินธุ์, นครราชสีมา, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, มุกดาหาร, กำแพงเพชร) มีผู้เสียชีวิต รวม 34 ราย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook