5 เหตุผลที่ 'ปืนใหญ่' จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
ฟุตบอล : หลังจากแพ้ ''สิงห์ผงาด'' แอสตัน วิลล่า ไปในช่วงเปิดฤดูกาล ''ไอ้ปืนใหญ่'' อาร์เซน่อล สามารถกลับมาอยู่อันดับที่หนึ่งบนตารางคะแนนได้ในที่สุด และนี่คือ 5 เหตุผล ที่จะบอกเราได้ว่า เพราะเหตุใดพลพรรคกันเนอร์สจึงจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จในตอนท้ายของฤดูกาลนี้
1. มหัศจรรย์แห่ง โอซิล
เมซุต โอซิล กลายเป็นชื่อที่ถูกบรรดาแฟนบอลปืนใหญ่เรียกขานมากที่สุดในช่วงท้ายของตลาดนักเตะที่ผ่านมา และเพียงแค่ 4 เกมในพรีเมียร์ลีกกับอาร์เซน่อลเท่านั้น "เมซุส โอซิล" ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว บดขยี้แนวรับของคู่แข่ง รวมถึงสร้างแรงผลักดันให้กับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างมหาศาล การเคลื่อนที่ไปกับบอลและความสามารถในการปลดปล่อยศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมของดาวเตะทีมชาติเยอรมันเป็นดั่งมนต์สะกด และในขณะนี้เขากลายเป็นนักเตะที่ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู้ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก และสามารถยิงประตูเปิดตัวกับต้นสังกัดได้เรียบร้อยในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ด้วยอายุเพียง 24 ปี โอซิล เข้ามาเติมเต็มเรื่องการผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย นอกจากนั้นมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันยังเพิ่มทางเลือกในการเล่นบอลยาวให้กับทีมไอ้ปืนใหญ๋ จากชัยชนะเหนือ สโต๊ค ซิตี้ 3-1 โอซิล ได้เข้ามามีบทบาทกับทั้ง 3 ประตูของทีมจากลูกเซ็ทพีซ สร้างความลำบากใจให้กับทีมที่จะต้องมาแข่งกับอาร์เซน่อลไปตามๆ กัน และคงป็นที่แน่นอนว่าผลงานของโอซิลในสนามนั้น คงจะหาสิ่งอื่นใดมาเทียบได้ยากเต็มที
2. ฟอร์มอันร้อนระอุของ อารอน แรมซีย์
ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้มีการเซ็นสัญญานักเตะเข้ามาเพิ่มในช่วงซัมเมอร์ และส่งผลให้ทีมได้ตัว เมซุต โอซิล มาร่วมทีม คนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะกล่าวถึง "อารอน แรมซีย์" และหากจะกล่าวถึงแรงบันดาลใจในทีมแล้ว ชื่อของ แจ็ค วิลเชียร์ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด
ด้วยผลงาน 4 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ รวมไปถึงค่าเฉลี่ยการผ่านบอล 71 ครั้งต่อหนึ่งเกม แรมซีย์ กลายมาเป็นนักเตะที่ถูกยกให้เป็นคีย์แมนของอาร์เซน่อลในที่สุด
ผลงานของ แรมซีย์ ไม่เพียงเป็นที่ประจักษ์ในเกมรุกเท่านั้น ดาวเตะชาวเวลส์เข้าแท็กเกิลคู่แข่งอย่างขาวสะอาดได้มากกว่า 5 ครั้งต่อเกม จากชัยชนะเหนือ สวอนซี ซิตี้ 2-1 เป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จ โดย แรมซีย์เข้าแท็กเกิ้ลได้สำเร็จถึง 7 ครั้ง ยิงได้ 1 ประตู และยังทำอีก 1 แอสซิทต์
หากกองกลางวัย 22 ปีรายนี้ ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ไปได้ตลอดทั้งซีซั่น อาร์เซน่อล ก็คงสามารถรักษาผลงานไว้ได้ไม่ต่างกัน
3. การถล่มประตูของ ชิรูด์
ความพยายามไล่ล่ากองหน้าระดับโลกเมื่อช่วงซัมเมอร์กลายเป็นความขมขื่นไม่น้อยสำหรับพลพรรคกันเนอร์ส ทีมปืนใหญ่พลาดที่จะได้ตัว กอนซาโล่ อิกวาอิน และ หลุยส์ ซัวเรซ มาร่วมทีม สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาแฟนบอลอยู่ไม่น้อย จนมีการกล่าวอ้างว่าชื่อเสียงของสโมสรนั้นได้ถูกทำลายลงแล้วในตลาดนักเตะ
ดูเหมือนว่าบรรดาแฟนบอลทั้งหลายจะไม่ได้คาดหวังอะไรทั้งสิ้นกับกองหน้าของทีมที่ชื่อ "โอลิวิเย่ ชิรูด์" เลย
แต่ในที่สุด ด้วยผลงาน 4 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ใน 7 เกม กองหน้าชาวฝรั่งเศสใช้ความคล่องแคล่ว ความแน่นอนในการยิงประตู ความรวดเร็วและความแข็งแกร่งของร่างกาย พัฒนาตัวเองให้กลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม สร้างโอกาสในเกมรุกให้กับทีมจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดของลีกในเวลานี้
เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด เหมือนกับ ชิรูด์ กำลังจะบอกอาร์เซน่อลว่าทีมไม่ต้องการกองหน้าระดับโลกอีกต่อไป เพราะพวกเขามีอยู่ในทีมแล้ว...
4. การกลับมาของนักเตะเจ็บ
เป็นปัญหาที่แฟนบอลวิตกกังวลมาตั้งแต่ช่วงตลาดนักเตะ เกี่ยวกับความเปราะบางของนักเตะในทีม และการเสีย มิเกล อาร์เตต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ลูคัส โพดอลสกี้ ไปในช่วงต้นซีซั่น ก็ยิ่งสร้างความหวั่นวิตก ก่อนที่ ซานติ กาซอร์ล่า จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บไปอีกคน
อย่างไรก็ตาม ช่วง 6 เกมพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา ทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ กำลังเล่นได้อย่างเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี และตอนนี้ทีมปืนใหญ่ก็เพิ่งได้ตัว อาร์เตต้า หายเจ็บกลับมา รวมถึงนักเตะบาดเจ็บหลายคนที่กำลังจะหายดี ปัญหาอาการบาดเจ็บกำลังจะถูกแทนที่ด้วยการมีขุมกำลังที่มากเกินไป
ในแดนหน้า หากชิรูด์ต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ เวนเกอร์ยังสามารถเลือกที่จะใช้ วัลค็อตต์ ทดแทนได้ พร้อมด้วยกองกลางจอมสร้างสรรค์เกมอีกมากมายที่จะคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
แทบจะเรียกได้ว่าในขณะนี้ เวนเกอร์ มีอาวุธเพียงพอแล้วที่จะสู้รบกับทีมอื่นไปตลอดเส้นทางการแข่งขัน
5. พลานุภาพแห่งกองหลัง
การมอง แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ไล่ล่าบอลเปรียบดั่งการมองสัตว์ป่าในสารคดี เป็นที่เคยเข้าใจกันว่ากองหลังชาวเยอรมันเปรียบเสมือนกวางน้อยผู้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และกำลังถูกไล่ล่าด้วยสิงโตผู้โหดร้าย แต่ในขณะนี้ด้วยความเชื่องช้าของเรือนร่างที่ถูกบดบังไปด้วยการอ่านเกมที่เด็ดขาด กลับกลายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ ในที่สุด
ด้านกอสเซียลนี่เองก็ยอมรับว่าเขารู้สึกสนุกที่จะได้จับคู่ร่วมงานกับกองหลังร่างโย่ง เพราะเขาสามารถชดเชยความเชื่องช้าของเพื่อนคู่หูด้วยการซ้อนอยู่ด้านหลัง การยืนคู่กันของทั้งคู่ช่วยให้ อาร์เซน่อล แพ้ไปเพียงแค่เกมเดียว จากทั้งหมด 25 เกมที่ทั้งคู่ลงเล่นด้วยกัน
การจับคู่กันของสองปราการหลังตัวเก่งของทีมช่วยให้อาร์เซน่อลยังไม่แพ้ใครในเกมเยือน 13 เกมล่าสุด หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของทีมก็คือการบุกไปเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคถึงถิ่นได้ 2-0