ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีซื้อขายอาวุธสงคราม

ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา อดีตลูกจ้าง สังกัด โรงงานอาวุธ และอดีตแนวร่วม นปช. กรณีร่วมกันซื้ออาวุธปืน เป็น 16 ธ.ค.นี้ หลังหนึ่งในจำเลยต้องการผ่าตัดต้อกระจก

ศาลอาญารัชดา นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย เลิศเสถียร อายุ 41 ปี อดีตลูกจ้างฝ่ายเอกสาร สังกัดโรงงานอาวุธ ปฏิบัติงานเป็นลูกจ้าง อยู่ที่กรมสรรพาวุธทหารบก กับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลยในความผิดฐาน

จากกรณี เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2553 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ติดตามจับกุม จำเลยได้ ในขณะกำลังทำการซื้อเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี และเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 ม.ม. จากสายข่าวของดีเอสไอ ที่บริเวณลานจอดรถ ห้างบิ๊กซี วงศ์สว่าง พร้อมขยายผลจับกุมจำเลยร่วม ประกอบด้วย นายธีรวุฒิ ศรัทธาบุญ ได้ที่ จ.เชียงราย และจับกุม จ.ส.ต.ขจรพันธุ์ สว่างพงษ์ ได้ที่กรมสรรพวุธทหารบก

อย่างไรก็ตาม ศาลอาญา ได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เวลา 09.00 น.

ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา คดี ร่วมกันซื้ออาวุธปืน เป็น 16 ธ.ค.นี้

ศาลอาญา รัชดา นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย เลิศเสถียร
อายุ 41 ปี อดีตลูกจ้างฝ่ายเอกสาร สังกัดโรงงานอาวุธ ปฏิบัติงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่กรมสรรพาวุธทหารบก และอดีตแนวร่วม นปช. นายธีรวุฒิ ศรัทธาบุญ และ จ่าสิบตรี ขจรพันธุ์ สว่างพงษ์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน มี ซื้อ จำหน่าย อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านฯ ร่วมกันซื้ออาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย
      
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2553 นายศักดิ์ชัย จำเลยที่ 1 ถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ล่อซื้อ และขายอาวุธสงครามให้กับจำเลยที่ 1 จากนั้น ขายผลจับกุมจำเลยที่ 2 กับ 3 ได้ในเวลาต่อมา

เมื่อถึงเวลานัด จำเลยมาศาล โดยจำเลยที่ 1 แถลงต่อศาลว่า เป็นต้อกระจก และต้องทำการผ่าตัดแก้วตาเทียม ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ 2 เดือน จึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีเหตุอันควร จึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 16 ธ.ค นี้ เวลา 09.00 น.