สถานการณ์น้ำท่วมปราจีน-สระแก้ว ยังน่าเป็นห่วง
11 ต.ค. - สภาพน้ำท่วมใน จ.ปราจีนบุรี ด้าน อ.เมือง น่าเป็นห่วง น้ำไหลบ่าข้ามถนนสายสุวินทวงศ์จากปราจีนบุรีเข้าเขต อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ท่วมสูง 50 ซม. และไหลเชี่ยว
สภาพน้ำท่วมใน จ.ปราจีนบุรี ด้าน อ.เมือง น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ต.บางเดชะ ม.9 ช่วงบ่ายวันนี้ (11 ต.ค.) น้ำไหลบ่าข้ามถนนสายสุวินทวงศ์จากปราจีนบุรีเข้าเขต อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ท่วมสูง 50 เซนติเมตร และไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่ต้องกั้นไม่ให้รถยนต์ผ่านเด็ดขาด และให้ไปใช้เส้นทางอื่น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนประชาชนจมมิดหลังคา เช่น บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ 9 ต.บางเดชะ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ของนางเครือวัลย์ นวลจันทร์ อายุ 52 ปี ส่วนทุ่งนาน้ำสูงประมาณ 4 เมตร
ที่ จ.สระแก้ว ตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศวันนี้ (11 ต.ค.) น้ำลดลงกว่า 70% หลังฝนหยุดตกมา 3 วัน ถนนหลายสายสัญจรได้แล้ว เช่น บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา หน้าโรงพยาบาลอรัญประเทศ คืนสู่ภาวะปกติ ผู้ประกอบการร้านค้าเร่งทำความสะอาดเพื่อเตรียมเปิดค้าขายวันพรุ่งนี้ มีเพียงบ้านเรือนริมคลองพรหมโหดถือว่าคลี่คลายไประดับหนึ่ง จากท่วมกว่า 1 เมตร ระดับน้ำอยู่ที่ 80 ซม.
ส่วนน้ำท่วม 7 หมู่บ้านชายแดน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ น้ำลดลงเช่นกัน แต่สะพานวังชโด ม.1 ต.ท่าข้าม ยังไม่สามารถสัญจรได้ เนื่องจากคอสะพานชำรุดและกระแสน้ำในคลองพรหมโหดยังไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่ทหารยังคงนำรถบรรทุกมาบริการรับ-ส่งการเดินทางของประชาชน
ด้าน พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต สวป.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว รับแจ้งเวลา 15.00 น. จากทีมค้นหาพระศักดิ์สิทธิ์ ตปสิโร อายุ 62 ปี พระสำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร หรือสำนักสงฆ์เกาะแก้วพรหมประสิทธิ์ ซึ่งถูกน้ำท่วมหลากพัดในสำนักสงฆ์ฯ จมหายไปเมื่อเช้าวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะสรงน้ำเตรียมออกไปบิณฑบาต ซึ่งเจ้าหน้าที่พบศพพระศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่ริมคลองพรหมโหด ห่างจากสำนักสงฆ์ฯ ประมาณ 300 เมตร.-สำนักข่าวไทย