ซ.เสือใหญ่น้ำท่วมขัง10-15ซม.หลังฝนถล่ม
ฝนยังไม่หยุด ถ.รัชดาภิเษก ยังรถมาก ส่วน ซ.เสือใหญ่ มีน้ำท่วมขัง รอการระบาย 10-15 ซ.ม.ขณะ ศภช.เตือน 16-17 ต.ค. ระวังน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่อีสาน ส่วนตะวันออกยังมีน้ำท่วม - แปดริ้ว อ่วมหนัก 'นารี' ถล่มน้ำทะลักเขตเมือง ด้าน อ.พิมาย โคราช จม 1 เมตร
แม้สถานการณ์การจราจร บริเวณ ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าศาลอาญา จะคลี่คลายลง ไม่ติดขัดสะสม เหมือนช่วงเช้า ซึ่งขณะนี้ ฝนยังไม่หยุดตก แต่มีปริมาณไม่หนักมาก เหมือนช่วงคืนที่ผ่านมา ส่วนการจราจรในฝั่งกลับกัน ปริมาณรถมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้เรื่อย ๆ ขณะนี้ ถ.รัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้า จาก แยกรัชโยธิน มุ่งหน้า แยกรัชดา ลาดพร้าว รถมาก และพื้นผิวถนน ค่อนข้างลื่นทำให้รถยนต์ต้องชะลอความเร็ว
จากการตรวจสอบ บริเวณด้านในซอยรัชดาภิเษก 36 หรือ ซอยเสือใหญ่อุทิศ พบว่า จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบางจุด ขณะนี้ ยังอยู่ที่ระดับ 10-15 เซนติเมตร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว หากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำไม่สามารถระบายได้ทัน ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังและหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ จะใช้เวลาในการระบายน้ำ 2-3 ชั่วโมง
ศภช. เตือนหลาย จว.อีสาน น้ำล้นตลิ่ง 16-17 ต.ค.นี้
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ประกาศเตือน เรื่อง ระวังภัยน้ำตลิ่งและน้ำท่วมขัง ในวันที่ 16-17 ต.ค. 56 สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา
อนึ่ง สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อ.บางน้ำเปรี้ยว อ.ราชสาส์น อ.บางคล้า อ.พนมสารคาม และ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ศภช. จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
"นารี" ทำสุรินทร์ฝนหนัก - เตือนระวังน้ำท่วมอีกรอบ
ขณะนี้สภาพอากาศในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลังพายุไต้ฝุ่นนารี เคลื่อนตัวผ่านมายังจังหวัดในพื้นที่อีสานตอนใต้ พบว่า ตลอดคืนจนถึงสายวันนี้ เกิดฝนตกหนักและสลับโปรยปรายตลอดเวลา ท้องฟ้าปิด มืดครึ้ม การสัญจรบนท้องถนนจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ โครงการชลประทานสุรินทร์ สำนักชลประทานที่ 8 แจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ให้ระวังน้ำท่วมอีกรอบ เนื่องจากชลประทาน ปล่อยน้ำลงสู่ทางระบายน้ำ วันละ 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไม่ให้น้ำล้นสปริลเวย์ เข้าท่วมนาข้าวที่กำลังออกรวง รวมถึงบ้านเรือนประชาชน
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาแม่น้ำมูลในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม และ อ.รัตนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำผ่านมาจาก จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ ที่กำลังไหลเข้ามาสมทบ ซึ่งอาจส่งผลให้นาข้าวและบ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มติดแม่น้ำมูลถูกน้ำท่วมได้
ฝนถล่มกรุงต่อเนื่อง-น้ำท่วมขังหลายจุด
สถานการณ์หลังเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ ในเขตกรุงเทพมหานคร ทำให้ในจุดต่าง ๆ น้ำท่วมขัง และเกิดปัญหาการจราจร อาทิ บริเวณถนนลาดกระบัง ช่วงแยกกิ่งแก้ว ตัดลาดกระบัง ระยะทางยาว 150 เมตร บริเวณปากซอยหมอเหล็ง ถนนราชปรารภ ใกล้แยกมักกะสัน ท่อประปา 1000 มม. แตก จุดนี้รถติดอย่างหนัก ทำให้ทุกเส้นโดยรอบมีผลกระทบ
ด้าน ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ช่วงแยกแบริ่ง พบว่าน้ำท่วมขัง สูง 15 ซ.ม. เนื่องจากไม่สามารถระบายได้ทัน ส่วนฝั่งขาเข้า แยกปู่เจ้าสมิงพราย - สะพานข้ามคลองสำโรง มีน้ำท่วมขังเช่นกัน ขณะที่ ภายในซอยรามคำแหง 24 หน้า บริษัทโฮยุฮะ มีน้ำท่วมขัง ความสูงประมาณครึ่งล้อรถยนต์ ถนนบางนา-ตราด กม.22+500 ช่องคู่ขนาน น้ำท่วม 20 ซ.ม.
และถนนสุวินทวงศ์ ช่วงแยกถนนสุวินทวงศ์ ตัดถนนหทัยราษฎร์ ถึงซอยสุวินทวงศ์ 58 น้ำท่วมสูง 30 - 40 ซ.ม. เนื่องจาก ฝนตกทั้งฝั่งขาเข้าเเละขาออก รถเล็กผ่านลำบาก วิ่งได้เฉพาะช่องทางขวา และบริเวณจุดกลับรถหน้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี กลับรถได้เฉพาะรถใหญ่เท่านั้น
อ.พิมายโคราช น้ำยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร
สถานการณ์ปริมาณน้ำภายในลำน้ำมูลที่ไหลผ่านตัวเมืองพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนคราชสีมา พบว่ายังคงมีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน (15ต.ค.56) ส่งผลให้ปริมาณน้ำยังคงไหลล้นเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและร้านอาหาร ภายในบ้านม่วง หมู่ที่ 7 ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย ที่อยู่ติดกับลำน้ำมูล มีปริมาณน้ำที่ท่วมสูงตั้งแต่ 70 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปริมาณน้ำแต่ละในพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา เริ่มไหลมาสมทบกับปริมาณเดิมในพื้นที่อำเภอพิมายแล้ว อีกทั้งการระบายน้ำ เพื่อระบายออกไปยังในพื้นที่ต่ำเป็นไปค่อนข้างช้า เนื่องจากปริมาณของผักตบชวาและวัชพืชต่าง ๆ ที่รอบตามกระแสนน้ำมาติดอยู่ที่บริเวณคอสะพานสายบายพาสมีเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ต้องนำเรือท้องแบบออกมาช่วยกันในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เพื่อเปิดทางให้น้ำสามารถไหลลงสู่พื้นที่ต่ำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจนาข้าวในพื้นที่ ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวนาปีแห่งใหญ่ใจกลางเมืองจันทบุรี หลังได้รับแจ้งจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวว่า ในช่วงเช้าได้เกิดลมกระโชกแรงส่งผลให้นาข้าวที่เกษตรกรปลูกไว้ที่กำลังออกรวง และจะสามารถเก็บเกี่ยวขายได้เดือนพฤศจิกายน ล้มเอน และเม็ดข้าวร่วงหล่นเสียหายกว่า 40 ไร่ ทั้งนี้คาดว่า น่าจะเกิดจากอิทธิพลของลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออก และมีผลกระทบต่อ จ.จันทบุรี ในช่วงนี้
โดย นางน้อย หลิบเป้า อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/15 หมู่ที่ 11 ต.คลองนารายณ์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ ต.คลองนารายณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ต้นข้าวนาปีล้มเอน และเม็ดข้าวร่วงหล่นเกิดจากลมกระโชกแรง ประกอบกับช่วงนี้ลมหนาวได้พัดผ่านเข้ามา ทั้งนี้ จึงส่งผลทำให้ต้นข้าวที่ตนเองและเกษตรกรในพื้นที่ ที่ปลูกข้าวไว้ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ ประกอบราคาข้าวในปีนี้ มีราคาดี
ตกเกวียนละ 14,000 - 15,000 บาท เพราะข้าวที่ปลูก จะสามารถเก็บเกี่ยวและขายได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
แปดริ้วอ่วมอีกนารีถล่มทะลักท่วมเขตเมือง
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีฝนตกลงมาในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากอย่างหนัก และต่อเนื่องจนถึงช่วงรุ่งเช้า หลังจากได้รับอิทธิพลจากพายุนารี ที่เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมพื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกของประเทศไทย จึงทำให้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ภายในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นย่านเศรษฐกิจ และเป็นศูนย์กลางของจังหวัดนั้น ยังได้ถูกน้ำฝนเอ่อล้นท่วมสูงด้วย เนื่องจาก ระบบระบายน้ำในพื้นที่ ทำการระบายออกสู่แม่น้ำบางปะกง ไม่ทัน เนื่องจากลำน้ำบางปะกง เต็ม และเมื่อมีการเร่งสูบระบายออกไป ยังได้มีน้ำบางส่วนพุ่งสวนไหลย้อนทะลักกลับออกมายังปากปล่องของช่องระบายน้ำใต้ดิน และมองเห็นได้บนพื้นถนนอีกด้วย จึงทำให้การระบายน้ำทำได้อย่างยากลำบาก จนเกิดภาวะน้ำฝนท่วมขังในตัวเมืองหลายจุด
--------------------------------------------------
อุตุฯเตือนนารีอีสานฝนหนักลมแรง-กทม.ฝนถล่มน้ำขัง
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=487353