กกต.ไม่รับรองผลลต.ส.บอล-โยนกกท.ตัดสิน

คณะกรรมการเลือกตั้ง 3 ใน 5 ท่าน ไม่รับรองผลเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ หลังพบพิรุธสโมสรโดนสวมสิทธิ์ ยกให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย พิจารณาตัดสิน

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน นายชนินทร์ แก่นหิรัญ หนึ่งในคณะกรรมการเลือกตั้ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดแถลงข่าวถึงการไม่รับรองผลการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่มีผลการเลือกตั้งปรากฏออกมาว่า "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ได้นั่งประมุขลูกหนังไทย เป็นสมัยที่ 4 หลังจากเอาชนะ "บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ไปด้วยคะแนน 42-28 เสียง

โดยทาง นายชนินทร์ แถลงว่า สื่บเนื่องจากเมื่อวันเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รับการร้องเรียนว่า 6 สโมสร
ประกอบไปด้วย ระยอง ยูไนเต็ด, ลูกอีสาน-การบินไทย, ตรัง เอฟซี, นนทบุรี เอฟซี, พังงา เอฟซี และ สุรินทร์ ซิตี้ ที่ ทาง กกต.ได้ตัดสินเลือกผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนไปแล้ว ถูกสวมสิทธิ์ ซึ่งเป็นเหตุมาจากคณะกรรมการฝ่ายอุทธรณ์วินิจฉัยกลับคำตัดสิน ทำให้บางสโมสรที่มีตัวแทนพร้อมด้วยหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรไม่ได้ลงคะแนนใช้สิทธิ์

"กกต. รับทราบว่า ภายในวันเลือกตั้งนั้น ได้มีการเปลี่ยนคณะกรรมการอุทธรณ์เป็นบุคคลอื่นด้วย โดยในส่วน ของ 6
สโมสร ที่มีกรณีพิพาทเรื่องสิทธิ์ทับซ้อนกัน นั้น ทาง กกต. ก็ได้ตัดสินไปแล้วว่าจะให้ใครลงคะแนน ซึ่งตัดสินตามหลักธรรมนูญอย่างถูกต้องทั้งหมดคือ การที่ผู้มีสิทธิ์จะลงคะแนนนั้น ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสร อาทิ เป็นผู้บริหาร
ประธานสโมสร รองประธาน หรือในตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง แต่ทางอุทธรณ์กลับมาเปลี่ยนผู้ใช้สิทธิ์ โดยที่ไม่มีเหตุผล ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของ กกต. กลายเป็นว่าผู้มีสิทธิ์จะลงคะแนน กลับต้องมายื่นอุทธรณ์เสียเอง ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย ทำให้ผม และทางคณะกรรมการอีก 2 ท่าน ได้แก่ พล.ต.ต.พิสุทธิ์ พุ่มพิเชฏฐ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ นายธนา ธรรมวิหาร จึงต้องไม่รับรองผลการเลือกตั้งครั้งนี้ และถือว่าการเลือกตั้งยังไม่สมบูรณ์"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ยังไม่เป็นเอกฉันท์ กกต. จะดำเนินการอย่างไร และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวได้หรือไม่ รวมทั้งจะโดนแบนหรือไม่ โฆษกคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยว่า "ทาง กกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งวาระหน้าที่นั้น สิ้นสุดลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มีอำนาจเรื่องข้อบังคับต่างๆ เป็นผู้พิจารณาต่อไป ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย จะพิจารณา โมฆะการเลือกตั้งหรือไม่โมฆะนั้น ก็สุดจะแล้วแต่ เพราะเกินอำนาจหน้าที่ของ กกต.ไปแล้ว ซึ่ง กกต.มีอำนาจแค่มาประกาศผลการเลือกตั้ง ส่วน ฟีฟ่า จะเข้ามาเกี่ยวข้องไหม ผมคิดว่า ฟีฟ่า เป็นแค่องค์กร และผู้ดูแลธรรมนูญ คงไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ได้"

ต่อข้อสักถาม เป็นไปได้ไหมที่การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ นายชนินทร์ กล่าวว่า "ไม่สามารถเป็นผู้ตอบได้ แต่ กกต. เพียงแค่ตรวจสอบแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากบางสโมสรถูกสวมสิทธิ์ จึงมาประกาศไม่รับรองผล ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ การกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าจะมองเรื่องนี้อย่างไร"

นายชนินทร์ กล่าวเสริมถึงกรณีสโมสรโดนสวมสิทธิ์อีกว่า ถ้ายึดตามข้อกฎหมายแล้ว สโมสรใดที่โดนสวมสิทธิ์สามารถไปฟ้องศาลขอความเป็นธรรมได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก กกท. ต้องการให้ตนไปชี้แจงเรื่องความไม่ชอบมาพากลเรื่องเลือกตั้ง ตนก็พร้อมไปตอบทุกข้อสงสัย ด้วยความยินดียิ่ง นายชนินทร์ กล่าวทิ้งท้าย