ราชันผู้หยิ่งยโส กับ ''เอล กลาซิโก้'' ครั้งที่ 258
ฟุตบอล : ในที่สุดก็ถึงเวลานี้อีกครั้ง การกลับมาของ ''เอล กลาซิโก้'' ศึกลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสเปน...ไม่สิ อาจจะยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ การเผชิญหน้ากันระหว่าง ''เจ้าบุญทุ่ม'' บาร์เซโลน่า กับ ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด เป็นเกมที่คอบอลทั่วทั้งโลกต่างก็จับตามองด้วยความตื่นเต้น
ด้วยผลงานการคว้าแชมป์ที่ผ่านมาถ้า บาร์เซโลน่า ถูกเรียกว่า "ต่างดาว" มาดริดเองก็คงเปรียบได้กับพระราชายอดนักรบแห่งโลกมนุษย์ ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อกอบกู้โลก และทั้งสองก็ต่างสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายยังไงยังงั้น
ความแค้นเคืองชิงดีชิงเด่นของทั้งสองสโมสรมีมาอย่างยาวนาน เหตุผลหลักๆก็เป็นเพราะการที่ทั้งสองทีมต่างเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ ที่ต่างก็คว้าแชมป์มาได้ถือเป็นสองอันดับแรกในแดนกระทิงดุ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่เข้ามาเสริมสร้างความต้องการในเอาชนะให้เพิ่มขึ้นมากไปอีก เมื่อทั้งสองยักษ์ใหญ่ต่างก็เป็นตัวแทนของสองเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสเปน รวมถึงยังได้รับอิทธิพลในด้านของการเมือง จากฝั่งมาดริดที่เปรียบเป็นตัวแทนของชาวสเปน กับบาร์ซ่าที่เป็นตัวแทนจากแคว้นกาตาลันที่มีระบอบการปกครองเป็นของตัวเอง การเจอกันแต่ละครั้งก็ยิ่งเหมือนสงครามที่ต่างฝ่ายต่างก็อยากที่จะเอาชนะกันให้ได้
ความแก่งแย่งชิงดีเอาเป็นเอาตายของทั้งสองทีมทำให้ไม่มีฝ่ายใดอยากจะแพ้ในเกมนี้ การพ่ายแพ้ให้กับศัตรูคู่อาฆาตอาจเปรียบประหนึ่งดุจดังถูกคู่แข่งอีกฝ่ายแย่งคนรัก มันทั้งเจ็บปวด ผิดหวัง และเสียหน้า
ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยเจอกันมาทั้งในเกมทางการและไม่ทางการรวมกว่า 257 เกม และเป็นฝั่ง บาร์เซโลน่า ที่คว้าชัยได้มากกว่าถึง 105 ครั้ง ในขณะที่ มาดริด ทำได้ 94 ครั้ง และเป็นผลเสมอทั้งสิ้น 58 ครั้ง
ฝั่งทีมจากเมืองหลวงของสเปนที่ได้ชื่อว่า ‘กาลาคติกอส' นั้น แม้จะออกสตาร์ทฤดูกาล 2013-14 ได้ไม่ดีนัก แถมยังต้องออกแรงเหนื่อยในหลายๆเกม ซึ่งส่วนหนึ่งของปัญหาอาจเกิดจากการขาดกองหน้าที่สามารถจบสกอร์ได้อย่างเด็ดขาด แต่การเอาชนะมาลาก้าได้ในเกมที่ผ่านมา สร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือร่างบวมน้ำได้อีกครั้ง เป็นสัญญาณดีว่า มาดริด กำลังกลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้งหนึ่ง
ทว่าฟอร์มการเล่นเพียงเกมเดียวไม่ใช่สิ่งอันจีรังยั่งยืนที่ อันเชล็อตติ จะเก็บไปละเมอฝันจนไม่เป็นอันทำอะไร กลางสัปดาห์มาดริดมีศึกหนักกับ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทีมแชมป์เซเรีย อา จากอิตาลี ก่อนที่จะเหลือเวลาเพียงน้อยนิดในการเตรียมการก่อนเกมแห่งศักดิ์ศรี ในคืนวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ ตามเวลาประเทศไทยก็ 23.00 น. หรือห้าทุ่ม ถือว่าไม่ดึกมากนัก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายใต้ฟอร์มการเล่นที่ดีในเกมที่กับมาลาก้า "ราชันชุดขาว" ยังคงมีปัญหาในทีมอีกมากมายหลายจุด...
กองหน้าตัวเป้า เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาของทีมจากเมืองหลวงยามนี้ ในเวลาที่ คาริม เบนเซม่า ถูกวิญญาณสากกะเบือเข้าสิง ทั้งๆที่ทีมเต็มไปด้วยนักเตะซูปเปอร์สตาร์ที่พร้อมจะจ่ายบอลให้ยิงประตู แต่หัวหอกดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสทำได้เพียง 2 ประตู ท่ามกลางโอกาสมากมายนับไม่ถ้วน ส่งผลให้เจ้าตัวโดนแฟนบอลโห่ไล่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ อัลบาโร่ โมราต้า ประสบการณ์น้อยเกินไปที่จะหวังพึ่งพิงได้ในเกมแบบนี้
มีข่าวดีอยู่บ้างเมื่อ แกเร็ธ เบล ปีกคนใหม่เจ้าของค่าตัวการย้ายทีมที่สูงที่สุดในโลกในขณะนี้ หายจากอาการบาดเจ็บเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะออกสตาร์ทในศึก เอล กลาซิโก้ ครั้งแรกของตัวเอง แต่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ดีว่า อันเชล็อตติ จะทำใจถอด อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่าที่กำลังอยู่ในช่วงเข้าฟอร์มไปนั่งข้างสนาม เพื่อหลีกทางให้กับ เบล ได้จริงหรือ
ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์มาดคุณชายเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกอาการบาดเจ็บเข้าเล่นงาน และต้องลุ้นว่าจะฟิตทันหรือไม่ ส่วน อิสโก้ จอมทัพดาวรุ่งก็ดูเหมือนว่าจะยังคงไม่สามารถทดแทนการจากไปของ เมซุต โอซิล ได้ น่าสนใจว่าอันเชล็อตติจะจัดทัพและใช้แท็คติคอย่างไรเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่ได้รับสมญานามว่าเก่งราวกับมาจาก "ต่างดาว"
ฝ่ายทีมจากแคว้นกาตาลันนั้น ล่าสุดเพิ่งจะพลาดการเก็บสามคะแนนในเกมกับ โอซาซูน่า แต่ก็เป็นการพลาดท่าเพียงเกมแรกของฤดูกาลเท่านั้น ทีมเจ้าบุญทุ่มของ ตาต้า มาร์ติโน่ กำลังยืนอยู่บนส่วนบนสุดของตารางลาลีก้าด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าแนวรุกสามคนของบาร์เซโลน่าเป็นหน่วยโจมตีที่อันตรายที่สุดในยุโรป
แม้จะเพิ่งเปลี่ยนโค้ชเหมือนกับฝ่ายมาดริด แต่ดูเหมือนว่าทีม "เจ้าบุญทุ่ม" จะมีปัญหาในทีมน้อยกว่า นายใหญ่ทีม อาซูลกราน่า เข้าใจธรรมชาติของทีมเป็นอย่างดี และไม่ได้ปรับเปลี่ยนทีมจากฤดูกาลก่อนมากนัก การทุ่มเงินหาศาลเพื่อคว้าตัว เนย์มาร์ มาเสริมทีมทำให้แนวรุกของทีมน่ากลัวมากขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าบาร์ซ่าเองจะไม่มีปัญหาเสียเลยทีเดียว
อาการบาดเจ็บของ กาเลส ปูโยล ทำให้มีเพียง เคราร์ด ปิเก้ เป็นแกนหลักในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเพียงคนเดียว มาร์ค บาร์ตร้า ประสบการณ์น้อยเกินไปในเกมแบบนี้ ที่ใช้งานพอได้ก็มีเพียง ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ และ อเล็กซ์ ซง ที่ล้วนมีตำแหน่งหลักเป็นกองกลางทั้งสิ้น กองหลังถือเป็นจุดอ่อนของ บาร์เซโลน่า มานานนมและยังไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้เสียที
ด้วยปัญหาที่น้อยกว่าฝั่งมาดริด และการได้เล่นในรัง คัมป์ นู ของตัวเอง สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่าจะเป็นฝั่ง บาร์เซโลน่า ที่ดูดีมีภาษีมากกว่า แต่แน่นอนว่ามาดริดก็มีศักดิ์ศรี ราชันผู้เพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติและความหยิ่งยโสจะไม่มีทางยอมแพ้คู่ปรับง่ายๆ แน่
ต้องไม่ลืมว่าเกมนี้คือ "เอล กลาซิโก้" เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี และมาดริดไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากที่จะต้องหันหน้าเข้าสู้อย่างสุดความสามารถ
เคยเห็นแมลงสาบที่ถูกไล่ต้อนจนเกือบจนมุมไหมล่ะ สุดท้ายถ้าตัดสินใจบินใส่หน้าขึ้นมา...ก็ตัวใครตัวมัน
skin_yenna