เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ส่งจดหมายถึงสรยุทธ ก่อนเสียชีวิต
จากกรณีการเสียชีวิตของนักแม่นปืนชื่อดัง นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ นักแม่นปืนทีมชาติไทย หลังถูกคนร้ายลอบยิงจนเสียชีวิตคารถหรูนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 ต.ค.) ได้มีการเปิดเผยจดหมายของ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ที่มีการเขียนจดหมายถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดังทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน โดยจดหมายมีเนื้อหาดังนี้
"เรียน พี่สรยุทธ์ ที่เคารพครับ ผมเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ที่พี่เคยช่วยเหลือผมตลอด ในขณะนี้เรื่องราวต่างๆผมได้ใช้ความอดทนอยู่ในเรือนจำ มทบ.11 ที่นครปฐม ไตร่ตรองและคิดอย่างดีแล้ว จึงเขียน จม.ฉบับนี้เพื่ออธิบายและขอเล่าเหตุการณ์อีกทั้งวัตถุประสงค์ของผู้ไม่ประสงค์ดีที่ร่วมกันซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นมารดากระผมครับ ซึ่งพี่ฟังดูก็คงจะแปลกพิลึกอยู่ครับผมเข้าใจ แต่ในขณะที่มารดาผมได้รับข้อมูลในเชิงลบ และผิดพลาดอยู่เป็นประจำจากเพื่อนที่ไม่ประสงค์ดีของผม ว่าผมใช้สารเสพติดและมีสิ่งเสพติดในร่างกายจนเกิดภาวะจิตหลอน ซึ่งผมเองไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจกับมารดา ผมไม่เคยพูดโกหกและไม่ซื่อ
พี่ลองนึกดูถึงสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตผมสิครับ จิตใจแห่งความเป็นสาธารณะ และตั้งใจรับใช้ชาติ กลับเป็นช่องโหว่ให้เพื่อนเข้ามาพูดคุยและกล่อมจนภรรยาเกิดความกลัว และกังวลใจ จนลุกลามไปถึงมารดา กลับครั้นผมได้พิสูจน์ปัสสาวะเพื่อค้นหาสารเสพติด และตรวจถึง 6 ครั้ง ไม่พบสารเสพติดตามที่ปรักปรำผม มารดาหลงเข้าใจว่าจะใช้มูลนิธิต่อรองให้ผมรักษาหรือบำบัด แต่พอผลพิสูจน์แล้ว มารดาถึงได้รู้ว่าเป็นเพราะผมตรากตรำทำงานและพักผ่อนน้อย มารดาจึงยื่นขอประกันตัว พร้อมบิดาและไม่ได้คัดค้านการประกันตัวใดๆอีก แต่พนักงานสอบสวนกลับคัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมานี้
และให้เหตุผลต่อศาลว่า ต้องสืบพยานวัตถุอีกคือปืนทั้ง 5 กระบอก ซึ่งเกรงว่าผมจะไปยุ่งเหยิงกับพยานอีก 6 คนที่สอบอยู่ ทั้งที่มีการยื่นหลักทรัพย์โดย คุณโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ ใช้หลักทรัพย์ที่ดินกว่า 2 ล้านบาทครับ ผมไม่มีสารเสพติด อีกทั้งไม่มีพฤติกรรมหลบหนีเลย น่าจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้ มีเพื่อนที่ยุยงและไม่ประสงค์ดีนั่นคือ พ.ต.ท.XXX เข้ามาเจรจาต่อรองเพื่อให้ผมเปลี่ยนนายประกัน และพยายามพูดในลักษณะเกลี้ยกล่อมให้ผมเข้ารักษาอาการทางจิตที่ รพ.มโนรมณ์ด้านจิตเวช
ก่อนหน้านี้นั้นได้เคยบีบบังคับให้ผมไปมาแล้วในลักษณะนี้ แต่ผมรู้อุบายที่จะทำให้ผมเป็นเป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งสภาพที่จะดำรงอยู่ในสังคมอย่างปกติ เพื่อประโยชน์ทางทรัพย์สินและการคุ้มครองบุตร ซึ่งครอบครัวของ(XXX) ทั้งภรรยา,บุตร,บิดาของภรรยา,บิดาของ(XXX)เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยกันทั้งสิ้น พี่ครับลูกสาวกระผมบริสุทธิ์เหลือเกิน ผมรักลูกมาก พี่ครับเค้าจะให้ผมรับการรักษาและอยู่ในความดูแลของเค้า เพื่อแลกกับอิสรภาพในการยื่นประกันตัว ซึ่งผมไม่ยอม ยอมติดอยู่กับที่นี่ครับ พี่ครับเค้าประสงค์ในทรัพย์ทั้งหมดที่ผมเก็บไว้ในเซฟธนาคารและธุรกิจ กิจการที่ผมร่วมกันก่อตั้งมากับภรรยา ผมสงสารภรรยาครับ
ผมขอให้พี่ช่วยติดตามเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนครับ เพราะผมกลัวสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกๆทั้ง 2 คนครับ อีกหนึ่งคนในครรภ์ เป็น 3 คนครับ เรื่องที่มีทรัพย์สินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา สุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหงนั้นเป็นเซฟที่เก็บพระเครื่อง เครื่องเพชร และนาฬิกา ซึ่งจะเปิดได้นั้นต้องมีลายเซ็นและตัวผมพร้อมกุญแจอีก 1 ดอก ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ที่ภรรยา เว้นแต่กระผมเองจะเป็นคนไปเซ็น ขอให้พี่ได้รับทราบถึงพฤติกรรมที่กลุ่มคนกลุ่มนี้พยายามทำบ้าน 2 หลัง และสิ่งอื่นๆซึ่งอาจประเมินค่าไม่ได้เลยหากล่าช้าครับพี่ ขอให้พี่เร่งพิจารณาและตัดสินใจช่วยเหลือผมและครอบครัวด้วยครับ ขอให้พี่ชาย (พี่ยุทธ์) เชื่อมั่นในความเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักต่อสู้ของผม หากเรื่องนี้ไม่จริง ดังนั้นแล้วพี่ค่อยตัดหางปล่อยวัดก็ย่อมได้ พี่อาจใช้ข้อมูลจากบิดาผม แม่ผม ครับ
กราบเท้าพี่ขอความเมตตาช่วยผมด้วยครับ
จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม"