"อ๊อด นครปฐม" การันตีปม "พระเครื่อง" ไม่น่าใช่ปัจจัยฆ่า "เอ็กซ์"
!["อ๊อด นครปฐม" การันตีปม "พระเครื่อง" ไม่น่าใช่ปัจจัยฆ่า "เอ็กซ์"](http://s.isanook.com/ns/0/ud/253/1265751/untitled-1_copy.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
เมื่อวานนี้(24 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. เชิญเซียนพระในวงการพระเครื่องจากศูนย์พระเครื่อง เช่น ที่ท่าพระจันทร์ ห้างพันธุ์ทิพย์ และที่ จ.นครปฐม จำนวนเกือบ 10 คน ที่เคยมีการเช่า-ขายพระเครื่องกับนายจักรกฤษณ์ รวมทั้ง นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ "อ๊อด นครปฐม" เซียนพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์มีความสนิทสนมมากที่สุดมาสอบถามหารายละเอียดกันตลอดทั้งวัน เพื่อหาเบาะแสประเด็นในการสังหารอดีตนักแม่นปืนทีมชาติ
ขณะที่นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ "อ๊อด นครปฐม" เซียนพระชื่อดัง ที่นายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เดินทางไปพักอยู่ด้วยก่อนที่จะถูกสังหารเสียชีวิต ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยภายหลังเสร็จสิ้นการให้ข้อมูล นายสุนทรเปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของจักรกฤษณ์ พร้อมทั้งมายืนยันว่าในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรงถึงขนาดต้องสังหารกัน ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้จักรกฤษณ์ถูกสังหารแน่นอน เนื่องจากมีการพิสูจน์ทราบเรียบร้อยแล้ว โดยพระเครื่องที่จักรกฤษณ์นำไปขายนั้น ได้รับการยืนยันจากเซียนพระหลายคนแล้วว่าไม่ใช่พระปลอม อีกทั้งบุคคลที่ซื้อพระจากนายจักรกฤษณ์ก็มาแสดงตัวและให้ข้อมูลแล้ว ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องน่าจะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นให้เกิดความสับสนในการสืบสวนหาตัวคนร้าย
นายสุนทรกล่าวอีกว่า หลังจากที่นายจักรกฤษณ์ออกจากเรือนจำก็เดินทางไปพักอยู่กับตนทันที และระบายความในใจเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวให้ฟัง โดยพูดถึงความปลอดภัยของตัวเองและหวาดระแวงจากคนใกล้ชิดที่ทำให้ติดคุก หลังจากที่ได้รับการประกันตัวจักรกฤษณ์ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังแทบทุกฝีก้าว ทุกครั้งที่เดินทางไปไหนมาไหนใน จ.นครปฐม จะใช้รถยนต์ของตนและคนรอบข้างตลอด ไม่ใช่รถของตัวเอง หากไปนอกพื้นที่ จ.นครปฐม ก็จะมีคนติดตามไปด้วย ระหว่างที่อยู่บ้านตน จักรกฤษณ์ก็ติดต่อกับครอบครัวตลอด แต่ไม่เคยกลับมาอยู่ด้วยกัน กระทั่งในวันเกิดเหตุจักรกฤษณ์เดินทางไปพบภรรยา และนัดกินข้าวกัน ทำให้ไม่มีการระวังตัว อาจจะชะล่าใจ คิดว่าจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว ระหว่างนั้นไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลยว่าจักรกฤษณ์จะต้องมาพบจุดจบดังกล่าว