ผบ.ตร.ยันดูม็อบบ้านนายกฯได้-ยิ่งลักษณ์ไปวัดบวรบ่าย2

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยัน คุมม็อบคนไทยหัวใจรักชาติได้ ตรึงกำลังตำรวจเข้มงวด เผย นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ด้าน 'ไชยวัฒน์' อุบแผนชุมนุมวันนี้ ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ออกจากบ้านพักไปวัดบวรฯบ่าย2

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายังจุดตรวจโยธินพัฒนา สน.ลาดพร้าว ที่อยู่บริเวณบ้านพัก นายกรัฐมนตรี พร้อมเปิดเผยว่า สถานการณ์โดยภาพรวม ตำรวจยังสามารถดูแลได้ เพราะประเมินว่า กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ผู้ชุมนุมมีไม่มาก แต่เพื่อความไม่ประมาท จึงจำเป็นต้องใช้ตำรวจดูแลผู้ชุมนุมอย่างเข้มงวด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย และหากกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทาง ตำรวจจะไม่ยอมให้เคลื่อนการชุมนุมมาถึงหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี โดยเด็ดขาด แต่จะจัดพื้นที่ที่เหมาะสม บริเวณหน้าปากซอยโยธินพัฒนา 3 ให้

เบื้องต้น จากการประสานงานผู้ชุมนุมจะไม่ปักหลักยืดเยื้อ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องขยายพื้นประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพิ่ม ขณะที่บริเวณหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี เส้นทางจราจรรถยังสามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ไม่มีการปิดถนนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีการจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่ ที่เคลื่อนไหวในขณะนี้ ซึ่งมี
ความเชื่อมโยงกัน

 

 

'ยิ่งลักษณ์' ไปวัดบวรบ่าย2 เตรียมเฝ้าฯรับเสด็จสมเด็จพระบรมฯ

บรรยากาศการรักษาความปลอดภัย บริเวณบ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายในซอยโยธินพัฒนา 3 ภาพรวมยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ล่าสุด นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากบ้านพักแล้ว เพื่อร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ที่วัดบวรนิเวศวิหาร

สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าซอยโยธินพัฒนา 3 ได้มีกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. นำดอกไม้มามอบให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาปฏิบัติดูแลความเรียบร้อย บริเวณบ้านพัก นายกรัฐมนตรี พร้อมกับตั้งรถขยายเสียงปราศรัย ขณะที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กำลังเดินทางมาชุมนุมบริเวณทางเข้าบ้านพัก นายกรัฐมนตรี เช่นกัน

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ตร.เข้มบ้านนายกฯม็อบคนไทยฯบุกวันนี้-'ไชยวัฒน์'อุบแผน

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=489963