หนังสือ สื่อรักจากลูก บดินทร ให้ น้องๆเด็กหญิงบ้านราชวิถี
ภาพของนักเรียนหญิงชายโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เลือกซื้อหนังสือดีราคาถูกที่ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คัดสรรจากสำนักพิมพ์ชั้นนำพร้อมสิ่งของที่ใช้แล้วแต่ยังคงสภาพดี อาทิ ของเล่น ตุ๊กตา อุปกรณ์กีฬา กระเป๋านักเรียน เครื่องเขียน ฯลฯ พร้อมเขียนข้อความผ่านการ์ดมอบหนังสือเป็นสื่อแทนใจให้แก่น้องๆ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ในโครงการ "มอบหนังสือเป็นสื่อแทนใจ ที่ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โดยการบริหารงานของ อ.อมรรัตน์ปิ่นเงิน และนสพ.คม ชัดลึก ร่วมกันจัดทำ ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้รู้จักการให้และแบ่งปันสิ่งของให้แก่เพื่อนๆ ผู้ด้อยโอกาสในสังคม เมื่อวันที่8 มกราคม ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจที่ติดตัวเยาวชนไทยมาตั้งแต่เกิดโดยเฉพาะ"บูม" ภาคภูมิ อุดมสังวรกุล นร.ชั้นม.6/10สายวิทย์-แพทย์ ที่ไม่เพียงซื้อหนังสือ เทพนิยายแอนเดอร์เซ่น ยังเชิญชวนให้เพื่อนๆมาร่วมบริจาคอีก เพราะเขามองว่า "การให้" หนังสือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสให้เข้าถึงการศึกษาได้อย่างแท้จริง เหมือนอย่างเขาที่ได้รับจากการอ่านนวนิยายแนวแฟนตาซี "ณัฐชนก ศศิโอภาส" เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกับ"บูม" บริจาคเทพนิยาย แอนเดอร์เซ่น บอกว่าโครงการนี้ทำให้เธอรู้จักคำว่า"การให้" ที่ช่วยให้น้องๆ บ้านราชวิถี ได้รับความรู้และความเพลิดเพลินจากหนังสือที่น้องๆ และเพื่อนๆ ลูกบดินทรบริจาค ถ้าใครได้อ่าน เทพนิยาย แอนเดอร์เซ่น จะได้ทั้งความเพลิดเพลินและสาระต่างๆ ด้วย ส่วนเพื่อนร่วมห้องอีก2 คน คือ "ปิน" สรัญญา สิทธิการุณ และ"ณัฐชนก จันทร" ซื้อนิทาน บีเดิล ยอดกวี บอกว่า การบริจาคหนังสือให้แก่ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเป็นเรื่องทื่ดีมาก เพราะหนังสือเป็นเพื่อนของทุกคน เป็นโลกจินตนาการ เป็นโลกของการเรียนรู้ ทำให้ผู้อ่านมีความคิดกว้างขวาง กว้างไกล ไม่ใช่แค่สนุกสนานเท่านั้น ทั้ง 4 คน พูดตรงกันว่าถ้ามีโครงการแบบนี้อีก พวกเขาจะไม่รีรอที่จะเข้าร่วมโครงการ อาจารย์จันทนา พนาวงศ์ ครูใหญ่ร.ร.บ้านราชวิถี บอกว่าสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี จะเป็นผู้ดูแลหนังสือที่ได้รับบริจาคทั้งหมด และจัดสรรไปให้บ้านต่างๆ มีอยู่ทั้งหมด 19 หลังตามความเหมาะสม ซึ่งดูแลเด็กหญิงอายุ 6-1 8 ปี ประมาณ 406 คน ในส่วนของ ร.ร.บ้านราชวิถี เปิดสอนอนุบาล-ป.6 มีอยู่ 102 คน ที่เหลือจะไปเรียนโรงเรียนข้างนอก ซึ่งสถานสงเคราะห์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยจะส่งเสียให้เรียนต่อระดับพื้นฐานจนจบปริญญาตรี ด้าน"การ์ตูน"ด.ญ.เมธินี พลโฮธี อายุ12 ปีนักเรียนชั้นป.6 ร.ร.บ้านราชวิถีบอกว่า หนังสือ อุปกรณ์การเรียน จากโครงการ มอบหนังสือเป็นสื่อแทนใจ มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะหนังสืออ่านเพื่อเพิ่มเติมความรู้ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แล้วอ่านให้น้องๆ อนุบาล ในบ้านราชวิถีฟังอีกด้วย แม้ว่าตอนนี้พวกเรายังไม่มีห้องสมุดแต่การได้รับบริจาคหนังสือ เป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับพวกหนูมาก นอกจากได้ความรู้ ความคิด แล้วยังเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้ ทำให้เข้าใจโลก เข้าใจชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะหนังสือนิทานอีสป ให้คติสอนใจดีๆ ที่นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยากขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่ได้มอบหนังสือผ่านโครงการนี้ ในอนาคตถ้าเป็นไปได้หนูอยากให้มี ห้องสมุดประจำโรงเรียนบ้านราชวิถี และหนังสือศัพท์ภาษาอังกฤษ เพื่อให้เด็กๆ ศึกษาหาความรู้ ให้มากขึ้นเช่นเดียวกับ"อ๊ะ" ด.ญ.ปิยรัตน์ ชาติกุล อายุ12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ร.ร.บ้านราชวิถีบอกว่า หนังสือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมาก เรียนในห้องเรียนอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ที่จะทำความฝันอาชีพ "พยาบาล" ให้เป็นจริง ต้องอ่านหนังสือเพิ่มเติมความรู้ อย่างหนังสือวิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องร่างกายมนุษย์ ที่บอกเกี่ยวกับระบบร่างกาย สมอง หัวใจ แขน ขา อยากฝากเพื่อนที่มีหนังสือดีๆ ถ้าไม่อยากอ่าน หรืออ่านเบื่อแล้ว ก็นำไปบริจาค หรือมอบให้ผู้อื่น เพราะยังมีเด็กอีกมากที่ไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือดีๆ หากมีโครงการมอบของให้น้องๆ อีก อยากให้นำรถจักรยาน และหม้อหุงข้าว เพราะตอนนี้ที่บ้านราชวิถี มีแต่เก่าและโทรมมากแล้ว การมอบหนังสือเป็นการมอบความสุข ที่มีคุณค่า เพราะนอกจากเปี่ยมด้วยคุณค่าทางจิตใจแล้วยังก่อให้เกิดความสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับอีกด้วย เรื่องโดย : หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ