กรณ์ จาติกวนิช ยืนยันลาออก กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม 3 รองหัวหน้า

กรณ์ จาติกวนิช ยืนยันลาออก กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม 3 รองหัวหน้า

กรณ์ จาติกวนิช ยืนยันลาออก กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม 3 รองหัวหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

4 รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตบเท้าลาออกจากกรรมการบริหารพรรค พร้อมนำม็อบต้าน พ.ร..บ.นิรโทษกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 ต.ค.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช , นายอิสระ สมชัย และนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู จะยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แต่ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. เพื่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะการเคลื่อนไหวบางเรื่องอาจส่งผลให้ถูกยุบพรรค จึงไม่ต้องการให้พรรคเดือดร้อน โดยในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) เวลา 16.00 น.จะมีการนัดเคลื่อนไหวที่สถานีรถไฟสามเสน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยุ่นอกเขตพื้นที่ที่ประกาศ เป็นพ.ร.บ.ความมั่นคง

ล่าสุด นายกรณ์ จาติกวนิช ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ยืนยันข่าวการลาออกจากตำแหน่งรองกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีข้อความดังนี้

"หนึ่งในการถูกลงโทษเพราะเราปฏิเสธการมีส่วนร่วมทางการเมือง คือการถูกปกครองโดยคนชั้นเลว"

Plato

แถลงความในใจ

เมื่อเก้าปีก่อน ตอนที่ผมลาออกจากบริษัทที่ผมตั้งขึ้นมาเองเพื่อไปลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้แทน ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องมาร่วมต่อสู้ทางการเมืองแบบนี้

ผมได้เข้ามาทำงานการเมืองด้วยความตั้งใจใว้ว่าจะใช้ความรู้และประสบการณ์จากการทำงาน ๒๐ ปีในภาคเอกชนในการพัฒนาบ้่านเมือง ผมภูมิใจที่ประชาชนและพรรคได้ให้โอกาสผมทำตามความตั้งใจมาโดยตลอด เพียงแต่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างในสถานการณ์ปัจจุบัน

วันก่อนมีคนถามผมว่า 'ไม่ทะเลาะกันได้ไหม' ผมตอบว่าคุณรู้หรือไม่ว่าส่วนใหญ่ ฝ่ายค้านเราลงคะแนนสนับสนุนเรื่องที่รัฐบาลนำเสนอในสภาฯ พูดง่ายๆ เราไม่ได้ทะเลาะทุกเรื่อง อะไรที่ตกลงกันได้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนเราก็ยินดีสนับสนุน

แต่บางเรื่องเราจำเป็นต้องคัดค้าน และมีบางเรื่องที่เรามีหน้าที่ ในฐานะนักการเมือง ที่ต้องใช้สิทธิอันควรในระบอบประชาธิปไตยที่จะต่อต้าน

สำหรับผมเรื่องนั้นคือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่จะ 'ล้างผิด' ให้กับผู้มีอำนาจที่ถูกจับได้ว่าโกงบ้านโกงเมือง ในฐานะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยผมเห็นว่าเรามีหน้าที่ที่ต้องคัดค้านการใช้อำนาจในการทำลายระบบนิติรัฐที่ถือว่าเป็นเสาหลักสำคัญของสังคม

ดังนั้นเมื่อเขาไม่ฟังเสียงเราเลยในสภาฯ เราก็ต้องออกมาใช้สิทธิเคลื่ิอนไหวเพื่อสื่อสารโดยตรงกับประชาชนนอกสภาฯ เพียงแต่เราต้องไม่ใช้ความรุนแรง และต้องอาศัยพลังของประชาชนในการกดดันให้รัฐบาลทบทวนความคิด

ส่วนที่กังวลว่าเราจะเคลื่อนไหวเพื่อโค่นรัฐบาลหรือไม่ ผมยืนยันว่าส่วนตัวไม่มีเจตนานั้น ผมเพียงต้องการคัดค้่านกฎหมายนี้ และไม่ประสงค์จะเข้ามาเป็นรัฐบาลนอกจากในกรณีที่เรามีเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งที่สนับสนุนเรา

ส่วนท่านที่คบกันมากับผมในฐานะเพื่อนทาง face book ก็คงต้องไตร่ตรองว่าท่านจะมีส่วนร่วมกับผมในเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ พวกผมก็สู้ไม่ได้ ต้องตัดสินใจกันเองครับ

ต้องตัดสินใจว่าเราจะยอมเป็นประเทศที่พรรครัฐบาลสามารถออกกฎหมายล้างผิดให้พรรคพวกตนเอง ที่ทุจริตต่อบ้านเมืองหรือไม่

ส่วนถ้าใครมีคำถามต่อจุดยืนของผม หรือถามถึงแนวทางการมีส่วนร่วมในการต่อต้านกฎหมายนี้ ขอให้เขียนเข้ามาถามได้ และคอยติดตามคำชี้แจงของผมครับ

คำถามแรก ผมจะลาออกจากตำแหน่งบริหารของพรรคตามข่าวจริงหรือ คำตอบคือจริงครับ ถามว่าผมยังเป็นประชาธิปัตย์และเป็นสส.อยู่หรือเปล่า คำตอบคือเป็นครับ เพราะผมต้องการสู้ทุกเวที ถามว่านี่เป็นการไม่เคารพระบบสภาฯหรือเปล่า ตอบว่าเคารพครับ จึงต้องต่อต้านผู้ที่ยํ่ายีสภาฯด้วยการอ้างเสียงข้้างมากในการใช้สภาฯเป็นเครื่องมือฟอกตัวเอง

ถ้าถามว่าให้ร่วมอย่างไร ในชั้นแรก ไปเจอกันที่จุดนัดพบที่สามเสนได้ครับ หกโมงเย็น พฤหัสนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook