ศาลชี้อากงตายมะเร็งตับคาคุกคดีหมิ่นเบื้องสูง

ศาลชี้อากงตายมะเร็งตับคาคุกคดีหมิ่นเบื้องสูง

ศาลชี้อากงตายมะเร็งตับคาคุกคดีหมิ่นเบื้องสูง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลอาญา รัชดา มีคำสั่งกรณี ''อากง'' คดีหมิ่นเบื้องสูง เสียชีวิต เป็นมะเร็งตับ ขณะถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ฯ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท ดูแลเต็มที่แล้ว ขณะที่ ทนายอากง นำคำสั่งศาลไปประกอบไต่สวนคดีฟ้องราชทัณฑ์

ศาลอาญา รัชดา นัดฟังคำสั่งการไต่สวนคดีที่ พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นคำร้องไต่สวนการเสียชีวิตของ นายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง อายุ 61 ปี ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 20 ปี ฐานหมิ่นเบื้องสูง และเสียชีวิตในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.55 เพื่อให้ศาลทำคำสั่งว่า ผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด รวมถึง สาเหตุและพฤติการณ์การตาย ตาม ป.วิอาญา มาตรา 150

โดยศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานและฟังการไต่สวนแล้ว มีคำสั่งว่า นายอำพล เสียชีวิตภายในเรือนจำ ขณะถูกคุมขัง ด้วยสาเหตุระบบการไหลเวียนโลหิตและหัวใจล้มเหลว อันเนื่องมาจาก มะเร็งตับลุกลาม ขณะอยู่ในระหว่างการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ และไม่พอรับฟังได้ว่า การตายของนายอำพล เกิดจากความประมาทของทีมแพทย์ในขณะปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจาก  แพทย์ได้วินิจฉัยโรคในเบื้องต้นตามขั้นตอนของการรักษา และได้ติดตามดูแลอาการ นายอำพล อย่างต่อเนื่องรวมถึงวันหยุดด้วย แม้ในวันที่ นายอำพล เสียชีวิตแพทย์ เจ้าของไข้จะไม่ได้อยู่ด้วย แต่ก็ได้สั่งให้ทีมพยาบาลทำการปั๊มหัวใจ กู้ชีวิตตามขั้นตอน

 

ทนายอากงนำคำสั่งศาลไปประกอบไต่สวนคดีฟ้องราชทัณฑ์

นายอานนท์ นำภา ทีมทนายความ และ น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เปิดเผยภายหลังฟังคำสั่งการเสียชีวิตของ นายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง อายุ 61 ปี ว่า หลังจากนี้ จะนำผลคำสั่งการเสียชีวิตของ อากง ไปประกอบการไต่สวนของศาลปกครอง ที่ได้ยื่นฟ้องกรมราชทัณฑ์ไว้ โดยยืนยันว่า การฟ้องดำเนินคดี โดยเฉพาะในคดีอาญานั้น ไม่ได้ต้องการฟ้องดำเนินคดีกับแพทย์เป็นรายบุคคล เพียงแค่ต้องการยกระดับการรักษาภายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้ดียิ่งขึ้น

เนื่องจากมองว่า การช่วยเหลือ นายอำพล นั้น เป็นไปด้วยความล่าช้า และไม่ได้รักษาด้วยวิธีพิเศษ แต่เป็นการ
รักษาเบื้องต้นเท่านั้น ทั้งที่คนไข้อยู่ในโรงพยาบาล โดยจะเห็นว่า ในวันที่ นายอำพล จะเสียชีวิต มีเพียงพยาบาลที่ปั๊มหัวใจ แต่ไม่ได้รับการปั๊มหัวใจด้วยเครื่องไฟฟ้า ซึ่งหากได้รับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว คนไข้ก็อาจรอดชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม น.ส.พูนสุข กล่าวว่า นางรสมาลิน ตั้งนพกุล ภรรยา นายอำพล ไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากป่วย

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook