ผบ.ตร.ใช้กำลังป้องทำเนียบ 5,000 นาย หากจำเป็นก็ต้องใช้"แก๊สน้ำตา"

(ภาพจาก ทวิตเตอร์@js100radio)

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังเข้ารายงานสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ว่า อยู่ในกรอบที่สามารถดูแลได้ ส่วนการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะเน้นดูแลการจราจรเป็นหลัก เพราะขณะนี้ได้รับรายงานล่าสุดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกอุรุพงษ์จะเคลื่อนขบวนไปรวมตัวกันที่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งถ้าบุกเข้ามาในเขต พ.ร.บ.ความมั่นคง เราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ ประกอบกับขณะนี้มีรายงานเข้ามา ตนจึงเป็นห่วงสถานการณ์ ต้องนำกำลังเข้ามารักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล

ถามว่า จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้มบริเวณโดยรอบทำเนียบจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้หรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เราพยายามดูแลให้เรียบร้อยที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามหน้าที่และปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อดูแลประชาชน ซึ่งยืนยันว่า เรื่องของการใช้แก๊สน้ำตานั้นเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าหากมีความจำเป็นในเรื่องสถานการณ์ความไม่มั่นคง ก็ต้องดำเนินการ เพื่อให้เหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นยุติ

ถามย้ำว่า เมื่อกลุ่มชุมนุมบุกเข้ามาทำเนียบ จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ก็เป็นขั้นตอนของเราอยู่แล้ว

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นกองกำลังตำรวจตามแผน ทั้งหมด 40 กองร้อย แต่จำนวนไม่ถึง 1 หมื่นนาย อยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 นาย สำหรับการชุมนุมที่บริเวณราชดำเนินรัฐบาลยังไม่มีการขยาย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพิ่มเติม เนื่องจากอยากให้โอกาสในการเข้ามาพูดคุยกันก่อน

ถามอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้ประเมินสถานการณ์ในที่ประชุมหรือไม่ หลังจากวันไหนการชุมนุมจะเบาบางลง พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่ามั่นใจกับสถานการณ์ ส่วนจะมีการประกาศพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุม

แต่ยืนยันว่าเราจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เท่าที่จำเป็น เพราะการประกาศไม่กระทบกับประชาชน แต่เป็นผลดีกับประชาชน ซึ่งถ้าไม่ประกาศใช้ ผู้ชุมนุมก็จะมาปิดล้อม ซึ่งรัฐบาจะไม่สามารถทำงานได้ รวมถึงจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้ แต่เมื่อเราใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตพื้นที่ที่จำกัด ทั้งรัฐบาลและรัฐสภา สามารถที่จะบริหารบ้านเมืองได้ และเป็นผลประโยชน์กับบ้านเมืองมากกว่า

"ตอนนี้ห่วงสถานการณ์มือที่สามเข้ามาสร้างความวุ่นวาย การที่กลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มจะมาร่วมตัวกันชุมนุม ก็ต้องค่อยๆ ดูสถานการณ์กันต่อไป ยืนว่าว่ากำลังขอเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนนี้ก็มีกำลังใจดี" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว