เตือนภัยโจรเจาะATMเชิดเงินสด3-7หมื่น

เตือนภัยโจรเจาะATMเชิดเงินสด3-7หมื่น

เตือนภัยโจรเจาะATMเชิดเงินสด3-7หมื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเตือนภัย โจรไฮเทค เจาะข้อมูลเอทีเอ็มเหยื่อ กดเงินตู้ย่านออล ซีซั่นส์ และอาคารโรเล็กซ์ ถ.วิทยุ เจอดูดเงินออก 3-7 หมื่นบาท/คน เสียหายแล้ว 35 ราย

พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.ผนพ.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายจำนวน 35 ราย ซึ่งเป็นคนไทย มาแจ้งความ โดยทุกราย ถูกเจะข้อมูลของบัญชีเงินในธนาคารของตัวเอง ในลักษณะที่ว่า หากผู้ใดมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มในอาคารออล ซีซั่นส์ และอาคารโรเล็กซ์ ถ.วิทยุ เงินจะหายจากบัญชีของตัวเองรายละตั้งแต่ 30,000 - 70,000 บาท ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเงินหายไปได้อย่างไร โดยทางตำรวจได้ตรวจสอบ

เบื้องต้น พบว่า เงินถูกเบิกในต่างประเทศ คือ ประเทศยูเครน ทั้งสิ้น ทุกราย ซึ่งขณะที่ธนาคารที่ถูกแฮกข้อมูลดังกล่าว กำลังเร่งตรวจสอบว่า เกิดอะไรขึ้น ดังนั้น จึงขอเตือนให้ประชาชน ในช่วงนี้ อย่าไปใช้ตู้เอทีเอ็ม ใน 2 อาคารดังกล่าว สักระยะ จนกว่าจะทราบข้อมูลที่แท้จริง

 

ความคืบหน้า กรณีโจรไฮเทคจากต่างประเทศ เจาะข้อมูลเอทีเอ็มของคนไทย ย่านถนนวิทยุ ซึ่งมีผู้เสียหายมาแจ้งความกับตำรวจแล้วกว่า 35 รายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า คนร้ายมีพฤติการณ์ใช้เครื่องสแกนเนอร์ในการแฮกข้อมูล โดยเมื่อประชาชนใช้ตู้เอทีเอ็มและไม่ได้มีการใช้มือป้องตามที่ทางธนาคารแนะนำ เมื่อลูกค้ากดเสร็จ แฮกเกอร์ก็จะทำการปลอมแปลงข้อมูลในบัตร และทำให้เงินในบัญชีสูญหายในทันที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางธนาคารยืนยัน พร้อมคืนเงินลูกค้าที่สูญหายจากบัญชีทุกบาทอย่างแน่นอน และทางธนาคารมีทีมเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบและเฝ้าระวัง กำลังเร่งตรวจสอบหาตัวคนร้าย และบล็อกข้อมูลลูกค้า ไม่ให้ถูกโจรกรรมเงินได้อีก

อย่างไรก็ตาม  ทางธนาคารขอให้ประชาชนใช้มือป้องเมื่อใช้ธุรกรรมผ่านเอทีเอ็ม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสบัตร ซึ่งถือเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด

 

ผู้เสียหายแจ้งความถูกแฮกATM-ธ.ขอตรวจสอบ60วัน

กลุ่มผู้เสียหาย ที่ถูกแฮคกข้อมูลบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม กว่า 40 คน เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ว่า เงินหายไปจากบัญชีธนาคาร ทั้งที่ไม่ได้ทำการเบิกเงิน ซึ่งผู้เสียหายที่มียอดถูกเบิกเงินไปสูงสุด กว่า 1 แสนบาท

โดย น.ส.ผกามาศ วิธีธรรม หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า ธนาคารไทยพานิชย์ และธนาคารกรุงเทพ โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า มีการกดเงินไปจากบีญชีธนาคารของตน ที่ประเทศยูเครน เมื่อช่วง 02.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ถึง 3 ครั้ง จากทั้ง 2 บัญชี รวมกว่า 30,000 บาท  ซึ่งเป็นบีญชีที่เปิดไว้กับธนาคารทั้ง 2 แห่ง ที่ตึกออล ซีซั่นส์ ถนนวิทยุ ซึ่งทางธนาคาร ได้แนะนำให้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ และจะดำเนินการตรวจสอบภายใน 60 วัน และตอนนี้รู้สึกไม่มั่นใจในบัญชีธนาคาร

ทางด้าน พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียหายมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้ว 43 ราย ซึ่งจากนี้ จะประสานเจ้าหน้าทีธนาคารมาสอบถามว่า วิธีการที่คนร้ายแฮกข้อมูล ดำเนินการอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook