ครูลิลลี่ ขึ้นเวทีราชดำเนิน ต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมลั่นวลีเด็ด เหน็บยิ่งลักษณ์

ติวเตอร์ภาษาไทยชื่อดัง ครูลิลลี่ ขึ้นเวทีราชดำเนิน เหน็บวิธีอ่านโพยของนายกฯ ย้ำไม่ได้เลือกข้าง ปล่อยวลีเด็ด "ถ้ารักชาติมันน่ากลัว ก็อยู่ในครัวไปเถอะ"

เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (7 พ.ย.) ที่เวทีประชาชน ถนนราชดำเนิน ยังคงมีนักวิชาการ นักการเมือง และคนดัง ผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัยแสดงจุดยืนเพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ครูลิลลี่ กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ ครูติวเตอร์สอนวิชาภาษาไทยชื่อดัง ที่ได้ขึ้นไปพูดบนเวทีเกี่ยวกับร่างกฎหมายนิรโทษกรรม

ตามรายงานระบุว่า ครูลิลลี่ ขึ้นเวทีพร้อมกับความมั่นใจ พร้อมกับพูดปราศรัยในเชิงบันเทิงขบขัน จนสร้างเสียงหัวเราะและเสียงฮือฮาได้ดีจากกลุ่มผู้ชุมนุม ครูลิลลี่ บอกเอาไว้ว่า ที่นี่ในวันนี้ไม่ใช่ว่าถูกจ้างมา แต่มาด้วยหัวใจคนไทยและเพื่อความถูกต้อง

ทั้งนี้ ครูลิลลี่ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ครูลิลลี่สอนเด็กตลอดว่า คนเราแตกต่างกันได้ แต่อย่าแตกแยกกัน ในฐานะที่เป็นแม่พิมพ์ของชาติ เป็นตัวอย่างให้เยาวชน จะอยู่ได้อย่างไร หากแม่พิมพ์บิดเบี้ยว เราจะเอาไปใช้สอนลูกหลานได้อย่างไร ก็คงไม่ต่างจากแม่ปูสอนลูกปูเดิน

ครูลิลลี่ ยังตอบความคิดเห็นที่มีคนอยากให้ไปสอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อ่านหนังสือ ซึ่ง ครูลิลลี่ บอกเอาไว้ว่า ท่านนายกฯ ก็อ่านหนังสือดีแล้วค่ะ อ่านได้ถูกต้อง แต่อาจจะก้มมองโพยเยอะไปหน่อย ถ้าจะโทษใครก็ต้องโทษคนเขียนโพย ที่ไม่ดูบุคลิกของนายกฯ เลย คนหนึ่งเขียน คนหนึ่งอ่าน มันเข้ากันไม่ได้เลย

ในช่วงหนึ่ง ครูลิลลี่ กล่าวว่า ก่อนที่จะมาขึ้นเวทีนี้ มีเพื่อนมาถามว่า ไม่กลัวเหรอ? ที่จะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ ครูลิลลี่บอกกับเพื่อนตรงนี้เลยว่า "ถ้ารักชาติมันน่ากลัว ก็อยู่ในครัวไปเถอะ" เหตุที่มานี่ไม่ได้ผิลศีลธรรมใดๆ ไม่ได้ฆ่าใคร โกงใคร หรือไม่ได้มัวเมา คำว่ามัวเมาในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง เมาเหล้า เพียงอย่างเดียว แต่บางคนมัวเมาอำนาจ เมาเงินตราและเมาชื่อเสียง

นอกจากนี้ ครูลิลลี่ ยังยืนยันว่า ที่มาในวันนี้ไม่ใช่เพราะเลือกข้างการเมืองแล้ว แต่อยากจะเห็นทุุกคนช่วยพัฒนาประเทศชาติ คำว่า "ปรองดอง" มันต้องออกมาจากใจจริง ไม่ใช่แค่ลมปาก กฎหมายฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของความไม่จริงใจ ครูลิลลี่ไม่ได้ห่วงว่าภาษาไทยจะสูญหายไปจากสังคมไทย แต่กลัวว่าประเทศไทยจะสูญสิ้นไปเพราะกฎหมายแบบนี้ ดังนั้นต้องรวมตัวกันต่อต้าน ใช้สติและปัญญาจึงเอาชนะได้