กต.จัดTVขอรอฟังคดีพระวิหารห่วงปชป.ปลุกม็อบหากผลลบ

รมว.ต่างประเทศ จัดรายการยิ่งลักษณ์พบประชาชน ขอรอฟังศาลโลกตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ห่วง ปชป.ปลุกม็อบหากผลลบ ย้ำ ไร้ทับซ้อน

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน กรณีที่ศาลโลกตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารในวันที่ 11 พย. ว่า เป็นห่วงหากออกมาในทางที่เป็นลบกับประเทศไทยแล้วจะเกิดความวุ่นวาย มีการปลุกกระแสคลั่งชาติ  อยากให้ประชาชนใจเย็นฟังคำตัดสินด้วยสติมีเหตุผล

ทั้งนี้ นายสุรุพงษ์ ยืนยันว่า ทหารจะปกป้องประชาชนตามแนวชายแดนเต็มที่ แต่ขอให้มั่นใจว่าจะไม่ให้เกิดความรุนแรงแน่นอน ยืนยัน ที่ผ่านมารัฐบาลสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารเต็มที่ไม่มีการฮัวกับฝ่ายกัมพูชาหรือมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล เราแยกความสัมพันธ์ที่ดีออกจากผลประโยชน์ชาติ ซึ่งเอกสารการสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสารพระวิหารเริ่มตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีความต่อเนื่องมาอีกหลายรัฐบาล เพราะฉะนั้นต้องรับผิดชอบร่วมกัน

 

'รสนา'เชื่อปมเขาพระวิหารไทยเสียเปรียบจี้ทำประชามติ

นางรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงศาลโลกนัดตัดสินคดีเขาพระวิหาร 11 พ.ย.นี้ ว่า อาจไปใน 2 - 3 แนวทาง ดังนั้นจึงอยากให้คนไทยทุกคนไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลก รวมถึงรัฐบาลควรทำประชามติก่อนศาลโลกตัดสิน ว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ เพราะการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเสียงประชาชนเป็นหลักพิง อีกทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ ม.190 ของรัฐบาล ยังเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายอีกด้วย เพราะเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่า คนในรัฐบาลมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือมีประโยชน์ทับซ้อนกับการแก้ร่างดังกล่าวหรือไม่ พร้อมทั้งการตัดสินดังกล่าว อาจทำให้ไทยเสียเปรียบ เนื่องจากไม่ทราบว่าจะมีประเทศมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซงคำตัดสินหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ ทางกลุ่ม 40 ส.ว.กำลังดูร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ เนื่องจากวิธีการไม่ถูกต้องและเสียงข้างมากยังทำให้ประชาธิปไตยบิดเบี้ยว

 

ส.ว.ตรึงใจเชื่อไทยเสียเปรียบคดีเขาพระวิหาร

นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา และอดีตอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ นั้น ส่วนตัวเชื่อว่า คำตัดสินไทยจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงอยากแนะนำทางรัฐบาลให้แสดงท่าทีว่า ไม่ยอมรับคำตัดสินและมีอำนาจในเขตแดน เนื่องจาก ไทยเป็นผู้ค้นพบตัวปราสาท แต่ไทยกลับไม่ยกเรื่องดังกล่าวมาอ้าง อีกทั้ง การที่รัฐบาลเดินทางไปหารือกับกัมพูชา ยังทำให้ไทยเสียเปรียบ จึงอยากให้รัฐบาลพยายามอ้างแผนที่ 1 : 50,000 ตารางกิโลเมตร รวมถึงยึดถือแนวสันปันน้ำ และให้ยึดสนธิสัญญาโตเกียวเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า แนวทางที่ดีที่สุดของการตัดสินคือ ให้บริหารพื้นที่รอบปราสาทร่วมกัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ศาลโลกในการพิจารณา เพราะไม่ทราบว่าจะแพ้หรือไม่ หรือหากแพ้จะแพ้มากน้อยเพียงใด จึงไม่สามารถระบุผลกระทบได้

 

ผบช.ภ.3จัดกำลังดูแลชายแดนไทยเขมรรับพระวิหาร

พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ก่อนมีการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ ว่า ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 3 ได้เตรียมกำลังไว้คอยสนับสนุน โดยก่อนการตัดสินได้จัดกำลังตำรวจไว้ คัดกรองบุคคลที่จะเดินทางผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดนให้เข้มงวดขึ้น ตลอดจนให้การสนับสนุน และดูแลความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ โดยร่วมกับฝ่ายปกครอง เตรียมพร้อมเรื่องศูนย์อพยพชั่วคราว ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนและจุดที่สำคัญ ใกล้กับปราสาทเขาพระวิหาร นั้น จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร คอยดูแลอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า สถานการณ์ก่อนที่จะมีคำตัดสิน ยังเป็นปกติ และยังไม่มีเหตุการณ์ยิงปะทะกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่ มั่นใจการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่