เปิดใจไฮโซจอมแฉ "ช่วงวิทย์" หลังป่วยโรคพุ่มพวง รักษาตัว 2 ปี
เมื่อ2ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นข่าวกระแสที่โด่งดังมากเลยทีเดียวสำหรับพิธีกรไฮโซช่วงวิทย์ รัตนชำนอง ณ นคร อดีตโปรดิวเซอร์และผู้จัดรายการเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางช่อง 5 ได้คลอดพ็อกเกตบุ๊กออกแนว ''แฉดารา'' จนกระทั่งทำให้วงการบันเทิงมีการเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดีขึ้น
ล่าสุด ช่วงวิทย์ กลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้งด้วยการนั่งแท่นผู้บริหารนิตยสารแนวบันเทิง รวมทั้งโปรเจคต์มากมาย ทั้งในด้านธุรกิจส่วนตัว และสังคม เช่น งานสอนหนังสือ เผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณี วงการเพลงลูกทุ่ง ส่วนเรื่องวงการทีวีกำลังรอความชัดเจนในเรื่องทีวีดิจิตอล ฯลฯ
ไฮโซชื่อดัง กล่าวว่า ช่วงที่ตนหายตัวไปเกือบ 2 ปี เพราะป่วยหนักด้วยโรคคล้ายๆพุ่มพวง ดวงจันทร์ คือ ภูมิแพ้ตัวเอง ซึ่งมันกระทบไปหมดทั้งระบบเกี่ยวกับไต ปอด หลอดลม ทำให้ช่วงแรกๆ รักษาตัวเองที่โรงพยาบาลเอกชนอันดับ 1 ของจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาก็ไปรักษาตัวที่ประเทศอังกฤษ ตอนนั้นหมอบอกว่า 50-50 เพราะป่วยหนักมาก แต่ด้วยความที่เราต่อสู้กับความเจ็บปวด ทรมาน จนถึงขีดที่พ้นจุดตรงนั้นมาแล้ว ก็ทำให้พ้นความตายมาได้ ซึ่งหมอที่อังกฤษก็เก่งมากรักษาเราจนดีขึ้นมาได้ ตอนนี้ก็สุขภาพดีขึ้นแล้ว พร้อมกลับมาทำงานในวงการบันเทิงที่เรารักเหมือนเดิม ตนอยากจะสร้างสรรค์ผลงานในวงการบันเทิงให้ดี เพราะเคยผ่านงานด้านศิลปวัฒนธรรม วงการเพลงลูกทุ่งมาแล้ว ดังนั้นจึงอยากส่งเสริมงานด้านนี้ต่อไปให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้เรียนรู้
"ผมอยากชี้แจงว่าก่อนหน้าที่จะหายตัวไป 2 ปีที่ผ่านมานั้นมีข่าวสารมากมายทั้งในแง่ดีคือการทำรายการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ส่วนข่าวด้านลบคือข่าวฉาวในวงการบันเทิงมากมาย ซึ่งความจริงต้องมาฟังจากปากผมเอง เพราะที่ผ่านมาเราตกเป็นข่าวกับดาราคนนั้น คนนี้ ซึ่งผมเข้าใจพี่ๆ น้องๆ นักข่าวในวงการบันเทิงดี ซึ่งอาจจะหยิบประเด็นข่าวไปพาดหัวให้ดูตื่นเต้น แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็นเหมือนในข่าวที่ลงเลย เพราะจำได้ว่าตอนนั้นมีข่าวเรื่องการฟ้องร้องกับดาราชาย ซึ่งพอมันเกิดข้อเท็จจริงที่ตกลงกันได้ก็ไม่มีอะไร แต่ข่าวมันไปไกลกว่าความจริง เพราะมีการกล่าวหาว่าผมมั่วกับดาราคนนั้น คนนี้ ไปแฉดาราบ้าง ฟ้องดาราบ้าง
ความจริงแล้ว ผมเป็นผู้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์ เพราะเป็นอาจารย์ด้านศิลปวัฒนธรรม อบรมให้ความรู้นักศึกษา จะไปทำอย่างนั้นทำไม การที่มีข่าวแบบนี้เพราะผมหวังดีกับคนในวงการบันเทิง เอาเรื่องเตือนสติมาบอกกล่าวกันไว้ แต่ช่วงนั้นข่าวก็ไปไกลเกินความจริงมาก แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ผมตั้งใจจริงแล้วว่าจะเดินหน้าทำประโยชน์ให้กับสังคม ทั้งรายการทีวีด้านวัฒนธรรมทางช่อง 5 ที่เคยทำจนประสบความสำเร็จ ซึ่งอยากให้ทุกๆ คนคอยติดตามกันด้วยครับ"
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ