เผย 4 แนวทางคำตัดสินคดีเขาพระวิหาร!!
เวลา 16.00น. วันนี้ศาลโลกนัดตัดสินคดีกัมพูชาขอตีความคำพิพากษาคดีปราสาทเขาพระวิหาร ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยหน่วยงานความมั่นคงไทยวิเคราะห์และคาดการณ์ผลการพิพากษาจะออกมาใน 4 แนวทาง คือ
แนวทางที่ 1 ศาลโลกไม่มีอำนาจพิจารณาคดี หรือมีอำนาจแต่ไม่มีเหตุที่จะต้องตีความคำพิพากษาเดิม (ยกคำร้องของกัมพูชา) ผลก็คือทั้งสองฝ่ายต้องกลับไปยังสถานะเดิมก่อนการยื่นฟ้องต่อศาลโลก หากคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ ถือว่าไทยไม่ได้ไม่เสีย
แนวทางที่ 2 ศาลชี้ว่าขอบเขตอาณาบริเวณของปราสาทพระวิหารเป็นไปตามเส้นเขตแดนบนแผนที่ 1:200,000 ซึ่งเป็นไปตามคำฟ้องของฝ่ายกัมพูชา หากพิพากษาเช่นนี้ เท่ากับว่าพื้นที่พิพาทโดยรอบปราสาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ตกเป็นของกัมพูชา
แนวทางที่ 3 ศาลให้ยึดตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของไทยเมื่อปี 2505 ที่ได้กำหนดอาณาบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารเอาไว้แล้ว กล่าวคือ ทางทิศเหนือที่ระยะ 20 เมตรจากบันไดนาคไปทางทิศตะวันออกจนถึงช่องบันไดหัก และทางทิศตะวันตกที่ระยะ 100 เมตรจากแกนของตัวปราสาทไปทางทิศใต้จนจรดขอบหน้าผา ทั้งได้สร้างป้ายแสดงเขตและล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ ซึ่งหากคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์กับไทย
แนวทางที่ 4 ศาลไม่ตัดสินตามคำร้องของฝ่ายใด แต่ใช้วิธีอธิบายคำพิพากษาปี พ.ศ.2505 ว่าหมายความว่าอย่างไร แล้วให้ทั้ง 2 ประเทศ ให้ทั้งกัมพูชาและไทยไปเจรจาตกลงกันเองแบบทวิภาคี
ทั้งนี้หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว ทูตวีระชัย พลาศรัยจะออกมาแถลงคำพิพากษาเพื่อให้เข้าใจอีกครั้ง เนื่องจากคำพิพากษาเป็นภาษากฎหมาย อาจจะตีความผิดพลาดในความหมายได้