ศาลโลก ชี้ เขมร มีอำนาจอธิปไตยเขาพระวิหาร
มติศาลโลก อ่านคำพิพากษาเขาพระวิหาร ยัน มีอำนาจรับตีความตามเขมร ร้องเขตแดนเมื่อปี 2505 ระบุ เขมรมีอำนาจอธิปไตยพระวิหาร สั่งไทยถอนทหาร ตำรวจ ให้ 2 ปท.ไปหารือกันภายใต้การดูแลของยูเนสโก เนื่องจากปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
การอ่านคำพิพากษาตีความกรณีพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย กับ กัมพูชา จากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก
ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในขณะนี้อยู่ระหว่างที่ นายปีเตอร์ ทอมกา ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กำลังแถลงถ้อยข้อความยืนยัน ว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น มีอำนาจในการตีความกรณีนี้ภายใต้ขอบเขตของคำพิพากษาเดิมที่ได้เคยพิพากษาไว้แล้ว โดยจะยึดถือตามแนวการปฏิบัติที่ผ่านมา ในปี พ.ศ 2505 ด้วย เนื่องจากฝ่ายไทย ได้โต้แย้งว่า ศาลโลกนั้น ไม่มีอำนาจตีความในเรื่องความขัดแย้งนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ถือว่าการพิพากษาปี 2505 นั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการตีความในครั้งนี้ เนื่องจากไม่ถือว่าการตีความครั้งที่ผ่านมาเป็นสัญญา
ขณะที่บรรยากาศที่กระทรวงการต่างประเทศในขณะนี้ เต็มไปด้วยสื่อมวลชนจำนวนมาก จากสำนักต่างๆ ที่เดินทางมารอเฝ้าติดตาม การอ่านคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งในช่วงเวลา 18.20 น. ผู้แทนไทยจากกรุงเฮก ก็จะมีการแถลงถึงความคืบหน้าระหว่างการอ่านคำพิพากษา ก่อนที่ในช่วงเวลา 21.00 น. ทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศ โดย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว จะมีการแถลงสรุปอีกครั้ง พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามด้วย
ศาลโลกชี้เขมรถืออำนาจอธิปไตย-ไทยถอนกำลัง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในวันนี้ (11 พ.ย.) หลังจากที่ศาลโลก (ICJ) ออกมาอ่านคำตัดสิน ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่ผ่านมา โดยศาลโลกชี้ว่า กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือที่ดินรอบปราสาทพระวิหาร ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามกระบวนการสากล และยึดหลักกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ศาลโลกยังระบุอีกว่า ประเทศไทยต้องถอนกำลังทหารออกจากบริเวณอาณาเขตดังกล่าวซึ่งหลังจากนี้จะเป็นกระบวนการต่อเนื่องของศาลปกครองสูงสุดของสหประชาชาติ (UN) นั่นเอง
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมายาวนาน สร้างปัญหาข้อพิพาทและความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ศาลโลกชี้ขาดภูมะเขือและผาใกล้เคียง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของปราสาทพระวิหาร การถอนกองกำลังทหารออกไปบริเวณใดบริเวณหนึ่งนั้น ทั้ง 2 ประเทศ สามารถเป็นผู้กำหนดเองได้ เพื่อคงความเป็นธรรมและร่วมกันรักษามรดกโลกอย่างแท้จริง
ศาลโลกอ่านคำพิพากษาพระวิหารแล้วยันไม่คลุม4.6ตร.กม.
นายฟิลิป โคปเออร์ นายทะเบียนของศาลโลก ได้อ่านคำพิพากษาเป็นภาษาฝรั่งเศส ระบุ ศาลโลก มีอำนาจรับคำร้องของกัมพูชาครั้งนี้ แต่ไม่สามารถตีความให้แย้งไปจากคำพิพากษาในปี 2505 ได้ เนื่องจาก ในปี 2505 นั้น ศาลโลกได้พิจารณาไว้ชัดแล้วว่า ตัวปราสาทพระวิหารนั้น เป็นของกัมพูชา และฝ่ายไทยก็ได้ยอมรับดังนั้นพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทเขาพระวิหารทั้งหมดนั้น จึงตกเป็นของกัมพูชา เนื่องจาก กัมพูชา มีสิทธิ์ที่จะสามารถมีทางขึ้นจากฝั่งกัมพูชาได้ โดยให้ฝ่ายไทยถอนกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม คำพากษาครั้งนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่อย่างใด เนื่องจากว่า นายปีเตอร์ ทอมกา ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ระบุว่า ศาลโลกไม่มีอำนาจในการพิจารณาในพื้นที่ยอดภูมะเขือ และพนมทรัพ ได้ ว่าเป็นของฝ่ายใด เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศ ไม่ได้มีการแสดงตัวเป็นเจ้าของ
--------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กต.ยันพร้อมทุกทางฟังตัดสินพระวิหาร-ชายแดนเขมรปกติ
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=493452
ชาวภูมิซรอลห่วงพระวิหาร-นายกขอ ปชช.มั่นใจรัฐสู้เต็มที่
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=493524ทหารไทยเขมรยันอยู่ร่วมสันติ-ศาลโลกเริ่มอ่านพิพากษาแล้ว
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=493594