ส.ส.-สว.ทยอยสภาถกคดีปราสาทพระวิหาร-รปภ.เข้ม

สมาชิกรัฐสภา ทยอยเข้าร่วมประชุม ปมคดีปราสาทเขาพระวิหาร ขณะการรักษาความปลอดภัยทั้งในและนอกสภาเข้มงวด โดยปิดถนนแยกขัตติยานี ราชวิถี การเรือน พระบรมรูปทรงม้า

บรรยากาศก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 17 (สมัยสามัญทั่วไป) บรรดาสมาชิกรัฐสภาต่างทยอยเดินทางเพื่อเตรียมตัวในการประชุมที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น.อย่างต่อเนื่อง อาทิ นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล ทั้งนี้ เมื่อขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 จะให้ทางคณะทำงานในคดีปราสาทเขาพระวิหาร ได้เข้ารายงาน และวิเคราะห์ผลการตัดสินของศาลโลก ต่อรัฐสภา และให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน เนื่องจากขณะนี้ ยังมีความสับสนในผลคำตัดสิน

ขณะที่ทางด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งในและนอกสภา เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะมีการปิดถนนที่แยกขัตติยานี แยกราชวิถี แยกการเรือน แยกพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งหากจะเดินทางมาที่รัฐสภา ได้เปิดการจราจร 1 ช่องทางในทุกแยก ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลดูแล ผลัดเวรตลอด 24 ชั่วโมง

 

'ไพบูลย์'เชื่อรัฐนัดถกร่วมรัฐสภาเกมการเมือง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การประชุมร่วมรัฐสภา ตามมาตรา 179 เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาสำคัญของรัฐบาลนั้น เชื่อ เป็นเกมการเมือง ที่ต้องการรับมือกับสถานการณ์บ้านเมือง ในวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ประเมินเหตุการณ์แล้วกลับไม่ร้ายแรง จึงทำให้เวลาในการประชุมในวันนี้ อาจไม่ยาวนาน แต่อาจกินเวลาของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรบ้าง ซึ่งตนเองได้เตรียมประเด็นในการให้ข้อคิดเห็นไว้แล้ว ทั้งเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และคดีเขาพระวิหาร ที่รัฐบาลพยายามเบี่ยงประเด็นว่าไม่เสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม. แต่ความจริงนั้น ไทยเสียพื้นที่สำคัญส่วนที่เป็นหัวใจหลักไปแล้ว จึงถือว่ารัฐบาลพูดโกหกเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ตนเองจึงจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายในที่ประชุม ว่าอย่ารีบร้อนดำเนินการใด ๆ จนกว่าจะปรึกษาหารือภายในประเทศให้เสร็จเรียบร้อยก่อน และอยากแนะนำรัฐบาล อย่าเพิ่งเข้าพูดคุยกับกัมพูชา เนื่องจาก อยากให้มีการหารือแบบตกผลึกก่อน

 

 

----------------------------------------------------------------

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

วราเทพเผยถกสภาปมพระวิหาร-เขมรยุรัฐเรียกชดเชยไทย

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=494005