My Liverpool : ลิเวอร์พูล ใช่เลย....

My Liverpool : ลิเวอร์พูล ใช่เลย....

My Liverpool : ลิเวอร์พูล ใช่เลย....
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ผลงานในเกมล่าสุดของ ลิเวอร์พูล ที่เปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ ฟูแล่ม ก่อนจะไล่ถล่มไปแบบขาดลอยถึง 4-0 นั้น แม้จะไม่สามารถเอาไปหักลบกลบหนี้กับความว่างเปล่าในเกมสำคัญกับ อาร์เซน่อล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แต่อย่างน้อย ลิเวอร์พูล แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าพวกเขามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในฤดูกาลนี้และทำให้ความหวังของทีมที่จะได้ไปเล่นในฟุตบอลสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่สุดในฤดูกาลหน้าอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ใช่เรื่องที่เพ้อฝันแต่อย่างใด

ความพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล ทั้งสกอร์และรูปเกมที่ออกมาทำให้แฟนๆลิเวอร์พูลหลายคนคงเริ่มรู้สึกว่า บางทีพวกเขาอาจจะยังไม่สามารถจะขึ้นไปเบียดเสียดแย่งตำแหน่งแชมป์ลีกกับ อาร์เซน่อล และคู่แข่งทีมอื่นๆได้ เพราะลูกทีมของ เวนเกอร์ แทบไม่เปิดโอกาสให้กับ ลิเวอร์พูล เลยในเกมดังกล่าว

นอกจากช่องห่างที่ถูกยืดออกไปถึง 5 คะแนนแล้ว คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง เชลซี หรือแม้แต่ทีมที่มาแรงสุดๆอย่าง เซาแธมป์ตัน ก็เขยิบทำแต้มขึ้นมาเบียดทีมใหญ่ๆด้านบนตารางคะแนนได้อย่างน่าประทับใจ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมกลับมาเปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม ทีมซึ่งมีสถิติไม่ดีนักในการมาเยือนแอนฟิลด์เมื่อเอาชนะที่นี่ได้เพียงหนเดียวเท่านั้นใน 33 หนหลังสุด

เกมนอกบ้านคือปัญหาของ ฟูแล่ม มาเนิ่นนานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาพวกเขามักจะเอาตัวรอดได้เสมอแม้ในบางฤดูกาลอาจจะต้องไปเหนื่อยหนีตกชั้นจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลก็ตาม เกมนี้ มาร์ติน โยล ยังมีนักเตะอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, สกอตต์ ปาร์คเกอร์, สตีฟ ซิดเวลล์, ฟิลิป เซนเดอเรอร์, มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ฯลฯ ลงสนามกันถ้วนหน้า

คุ้มค่าทุกปอนด์ที่จ่ายไปสำหรับผลงานของ ซัวเรซ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมก็ตาม

แต่ผลการแข่งขันที่ออกมาอย่างที่ทราบกันครับคือ ลิเวอร์พูล นั้นเหนือกว่าเยอะและถล่มเอาชนะผู้มาเยือนจากเมืองหลวงไปแบบไม่ไว้หน้า 4-0 และแม้จะพลาดทำแฮตทริคไปอย่างน่าเสียดายหลังจากประตูแรกของเกมนี้ได้มีการประกาศให้เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ เฟร์นันโด อมอริเบียต้า ไปก็ตาม

ทว่าผลงานของ หลุยส์ ซัวเรซ ที่แสดงออกมานั้นถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ ขณะที่อีกประตูที่ได้มานั้นได้จาก มาร์ติน สเคอร์เทล

สองประตูของ ซัวเรซ คือประตูที่ 7 และ 8 ในลีกของเขาในฤดูกาลนี้และนั่นก็มีส่วนสำคัญช่วยให้ ลิเวอร์พูล เขยิบกลับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ของตารางคะแนนอีกครั้งและตามหลังจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล เหลือเพียง 2 คะแนนเท่านั้นหลังจากทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ลงเล่นทีหลังในวันอาทิตย์ออกไปโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะมา 1-0 นั่นเอง

จะว่าไปสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ถือว่าผลการแข่งขันในลีกเข้าทาง ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง เพราะทีมคู่แข่งสำคัญๆล้วนพลาดเก็บแต้มสำคัญกันทั้งหมดทั้ง อาร์เซน่อล ที่แพ้รวมถึง สเปอร์ส กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย

ด้าน เชลซี ที่เล่นในบ้านแล้วเจอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แม้จะไม่แพ้แต่ก็ต้องไล่ตีเสมอทีมเยือนในช่วงท้ายเกมจากลูกโทษที่จุดโทษอีกต่างหากขณะที่ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ ทำให้สถานการณ์บนตารางคะแนนด้านบนนั้นใกล้เคียงและสูสีน่าติดตามอย่างยิ่ง

ถ้าเขาทำทีมคว้าแชมป์ได้ ร็อดเจอร์ส จะถูกกล่าวขานถึงไปอีกหลายสิบปีในประวัติศาสตร์ของสโมสร

สองสัปดาห์ของเกมทีมชาติจะทำให้ ลิเวอร์พูล และทีมอื่นๆได้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับโปรแกรมที่จะกลับมาลุยกันใหม่ช่วงปลายเดือน จะว่าไป ลิเวอร์พูล นั้นได้เปรียบทีมลุ้นแชมป์ทีมใหญ่ทีมอื่นๆไม่น้อยตรงโปรแกรมแข่งของพวกเขาที่ดูจะเบาบางกว่าเยอะ ยิ่งตกรอบในถ้วยแคปิตอล วัน คัพ ก่อนหน้านี้เท่ากับ ลิเวอร์พูล จะเล่นเบามากไปจนถึงช่วงบ็อกซิ่งเดย์ต่อปีใหม่ที่จะมีโปรแกรมเอฟอ คัพ รอบ 3 เริ่มเข้ามา

การได้ ฟิลลิป คูตินโญ่ กลับมาทำให้แนวรุกของทีมเริ่มไหลลื่น ทุกอย่างของทีมกำลังไปได้ดีและหากว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้ตัวผู้เล่นดีๆเข้ามาเสริมทีมเพิ่มอีกในตลาดซื้อขายรอบสองยิ่งจะทำให้พวกเขาดูลงตัวและมีลุ้นที่จะได้โควตาไปเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าได้

การลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ยังเปิดกว้างสำหรับทุกทีม แม้ อาร์เซน่อล จะนำเป็นจ่าฝูงแต่พวกเขาก็แพ้ให้เห็นในลีกไปแล้วถึงสองเกม ลิเวอร์พูล ยังมีโปรแกรมจะได้เจอกับทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ อีกและจะเป็นการเล่นในรังแอนฟิลด์

ขอเพียงแค่พวกเขาจะไม่สะดุดขาตัวเองหน้าคะมำไปเสียก่อน ค่อยๆเล่นเพื่อคว้าชัยชนะไปแบบเกมต่อเกม เชื่อว่าถ้าทำได้ ถึงวันที่จะต้องเจอกันรอบสอง ลิเวอร์พูล จะทำได้ดีขึ้นแน่ในการเจอกับทีม "ปืนใหญ่"

มาร์ค สุรเดช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook