ทูตวีรชัยย้ำไม่ชัดไทยเสียดินแดนแนะขึ้นอยู่เจรจาเขมร

ทูตวีรชัยย้ำไม่ชัดไทยเสียดินแดนแนะขึ้นอยู่เจรจาเขมร

ทูตวีรชัยย้ำไม่ชัดไทยเสียดินแดนแนะขึ้นอยู่เจรจาเขมร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

''วีรชัย พลาศรัย' ย้ำ ยังตอบไม่ได้ ไทยเสียดินแดนหรือไม่ เหตุ ศาลโลกไม่วินิจฉัยเขตแดนทั้งสองประเทศ แนะ ขึ้นอยู่กับการเจรจากัมพูชา

การเสวนาทางวิชาการ เรื่อง เบื้องหลังคดีตีความปราสาทพระวิหาร ที่จัดโดย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องอเนกประสงค์ อาคารพินิตประชานาถ ในขณะนี้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมี นายวีรชัย พลาศรัย
เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะ หัวหน้าคณะต่อสู้คดีฝ่ายไทย และ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมในการเสวนา เพื่อพูดคุยให้ความรู้ ถึงที่มาที่ไปของคดีความที่ผ่านมา และผลที่คาดว่าจะเกิดจากคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ครั้งนี้

โดย นายวีรชัย กล่าวเปิดเผยว่า จากคำพิพากษาของศาลโลกนั้น ทำให้มติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2505 นั้น ตกไปด้วยเหตุผลบางประการที่เกี่ยวกับสันปันน้ำ ที่ทางกัมพูชา เคยอ้าง ซึ่งถือเป็นผลพวงมาจากคดีเก่า แต่ยอมรับว่าโดยส่วนตัวในขณะนี้ ไม่ทราบว่าเส้นเขตแดนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เนื่องจากยังคงอยู่ในระหว่างศึกษา และเมื่อถามว่าไทยจะเสียดินแดนหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับการเจรจาของทั้ง 2 ประเทศ แต่สิ่งที่ไทยเสียในครั้งนี้จากคำพิพากษา คือ การที่จะต้องเจรจาเท่านั้น เนื่องจากศาลไม่ได้มีการวินิจฉัยถึงเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ

 

กต.เตรียมแปลคำพิพากษาศาลโลกแจกปชช.

นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดเผยระหว่างการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง เบื้องหลังคดีตีความปราสาทพระวิหาร ที่จัดโดย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ขณะนี้ว่า ในวันที่ 19 พ.ย. 10.00 น. กระทรวงการต่างประเทศ จะมีการประชุมวิเคราะห์คำพิพากษาครั้งแรก ก่อนจะมีการหารือกับกัมพูชาต่อไป ซึ่งการหารือนั้น ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลา จนกว่าทุกฝ่ายจะมีความพร้อม

ขณะเดียวกัน ระหว่างนี้ ยังได้ดำเนินการแปลคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนได้มีความเข้าใจด้วย โดยจะมีการเชิญ ราชบัณฑิตยสถานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการแปลครั้งนี้ เนื่องจากยังมีความหมายบางคำศัพท์ที่จะต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจน

สำหรับขั้นตอนหลังคำพิพากษานั้น กระทรวงการต่างประเทศ จะมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงต่างๆ ต่อสาธารณชนและองค์กรทุกภาคส่วน ได้รับทราบ  แต่ในส่วนของพื้นที่ ที่ศาลโลกได้มีการพิพากษาว่า ตกเป็นของกัมพูชานั้น ยังไม่สามารถพูดได้ว่าพื้นที่ขนาดเท่าไหร่และจุดใดบ้าง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องรักษาท่าทีของคดีความที่ไม่สามารถกำหนดได้ก่อนการเจรจาจะเกิดขึ้น

 

 

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook