ตร.เผยยอดเหยื่อแฮกเงินเอทีเอ็ม14รายแล้ว
ตำรวจพญาไท เผยยอดเหยื่อแก๊งสกิมเมอร์ แจ้งความแล้ว 14 ราย สูญกว่า 6 แสนบาท ขณะ ปอศ. ได้ภาพ 2 ชาวจีนต้องสงสัย ตระเวนกดเงินใน จ.สงขลา
พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดประชาชนที่เสียหายจากถูกถอนเงินจากบัญชีหลายธนาคาร เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไทแล้ว มีประมาณ 14 ราย ยอดความเสียหายประมาณ 630,000 บาท ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงรอให้ประชาชนที่โดนโจรกรรมทางการเงินที่เพิ่งทราบข่าวมาแจ้งความเพิ่มเติม โดยทาง พนักงานสอบสวน จะรอรับแจ้งความถึงวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.นี้ ก่อนจะรวบรวมหลักฐานการ และสรุปสำนวนส่งให้กับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. นำไปติดตามจับกุมคนร้าย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า บก.ปอศ. ได้ภาพ 2 คนร้าย ซึ่งคาดว่าเป็นชายชาวจีนเชื้อสายมาเลเซีย โดยคนรูปร่างอ้วนสวมหมวกแก๊ป สีขาว เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าแตะ และอีกคนรูปร่างผอม สวมหมวกแก๊ปสีแดง สวมเสื้อยึดสีขาว กางยีนส์ สีน้ำเงิน ซึ่งทั้ง 2 คน จะตระเวนนำบัตรเอทีเอ็มที่ก๊อปปี้ข้อมูลมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหลายธนาคารใน อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 19.00 -21.00 น. ต่อเนื่องวันที่ 12 พ.ย.
ด้าน พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ รอง ผกก.สส สน.พญาไท เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณี โจรแฮกเงินในบัญชีธนาคารทหารไทย ย่านพญาไท สูญเงินรวมกว่า 7 แสนบาท และพบผู้เสียหายล่าสุด 14 รายแล้วว่า ล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังธนาคาร เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิด และได้รูปพรรณสัณฐานคนร้ายบ้างแล้ว แต่ในส่วนของความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้ายนั้น เป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากมีหลักฐานปรากฏว่า คนร้าย กดเงิดในจังหวัดสงขลา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป