เงิบ Days!
วันศุกร์ที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งวันที่ 2 มหาอำนาจลูกหนังทั้ง ฟีฟ่า และยูฟ่า หงายหลังกันเลยทีเดียว เมื่อการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบเพลย์ออฟ โซนยุโรปเตะจบลง เพราะผลการแข่งขันมันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้
คู่แรก โปรตุเกส ชนะ สวีเดน 1-0
จากประตูชัยของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงท้ายเกม ทำให้ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ถึงกับจุกเล็กน้อย เนื่องจากเขากลายเป็นคู่กัดของ "โด้จิ๋ว" ไปแล้ว หลังจากที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียผู้ใหญ่ ด้วยการทำท่าทางล้อเลียนเวลาเล่นฟุตบอล หรือการแซวว่ามัวแต่เอาเวลาไปซื้อเยลเซตผม จนถูก ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าซุป'ตาร์ คาบรางวัล ฟีฟ่า บัลลงดอร์ ไปแด็กซ์ ถึง 4 ปีติดต่อกัน
นี่คือตัวจุดประเด็นของปู่ครับ ให้ลองดูตั้งแต่นาทีที่ 2 ให้ดีๆ
หลังจากนั้น โรนัลโด้ กลับทำประตูถล่มทลาย หลังจากที่ถูกแซวแบบไม่ขำไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลงเล่นแค่ 4 นัด (ลาลีกา 2, แชมเปี้ยนส์ ลีก 1) ยิงไปทั้งหมด 9 ประตู ถ้าคิดเป็นสกอร์เฉลี่ย เป็นสกอร์ 2.25 ประตูต่อนัด ทำเอา "ปู่เซปป์" เงิบไปหนึ่งช่วง
ไม่พอครับ ในเกมฟุตบอลโลกรอบเพลย์ออฟ นัดแรก "เจ็ทโด้" ยังยิงประตูชัยให้กับทัพ "ฝอยทอง" เอาชนะ สวีเดน ที่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นแกนนำ หลังจากเขาไม่สามารถทำประตูในสีเสื้อทีมชาติมา 3 เกมติดต่อกัน แต่ดันมายิงนัดสำคัญแบบนี้ ทำให้ประธานฟีฟ่าเงิบหนักเข้าไปใหญ่!!!!
เกาหัวเลยเหรอครับปู่....
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า แบล็ตเตอร์ ไปจงเกลียดจงชังอะไร โรนัลโด้ นักหนา และก็ไม่รู้ว่าจะโอ๋ เมสซี่ ถึงขนาดไหน แต่ด้วยกริยาที่เขาทำ มันดูเหมือนจะเข้าข้างแข้งอาร์เจนไตน์เกินงามไปหน่อยนะ....
ระวังนะครับ สับกันไปสับกันมา กลายเป็นนักเตะที่สื่อและแฟนบอลบางส่วนเชียร์อยู่อย่าง ฟร้องค์ ริเบรี่ จะคาบรางวัลนี้ไปกินโดยไม่รู้ตัว!!
ระวังผมจะเป็นตาอยู่นะครับ อิอิ!
คู่ที่ 2 ยูเครน ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
คู่นี้คนที่เงิบผู้อ่านทุกท่านน่าจะร้องอ๋อ เนื่องจากเจ้าตัวมีสัญชาติเป็นฝั่งใดฝั่งหนึ่งด้วย นั่นก็คือ มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส หลังจากที่เราทราบกันมาก่อนหน้านี้ว่าทัพ "ตราไก่" เคยผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกปี 2010 ด้วยหัตถ์พระเจ้าของ เธียร์รี่ อองรี มาแล้ว ทำให้ใครหลายต่อหลายคนมองว่า ฝรั่งเศส อาจจะเป็นทีมเส้นก็ได้ ยิ่งทางฝั่ง ยูเครน เล่นแง่นี้ออกมาตั้งแต่วันที่จับฉลากมาเจอกัน!!
นี่คืออดีตที่ใครหลายคนมึนกันไปเลยครับ (อาจจะไม่ค่อยชัด แต่ก็น่าจะเห็นกันได้ชัดๆ ว่าโดนมือเต็มๆ!)
แต่ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลยครับ ยูเครน ได้ประตูนำหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมงพอดิบพอดี หลังจากนั้นนักเตะที่ฟอร์มไม่เคยคงที่อย่าง โลร็องต์ กอสเซียลนี่ เซ็นเตอร์แบ็กจาก อาร์เซน่อล ก็ดันมาทำเสียจุดโทษให้เจ้าบ้านอีก งานนี้มีข้าวติดคอกันบ้างหละคุณ "นโปเลียนลูกหนัง" หึหึ
หนำซ้ำ อีตา กอสเซียลนี่ ดันมาโดนใบแดงอีก หลังไปโขกใส่คู่แข่งแบบไม่น่าให้อภัย ทำให้ฝรั่งเศสต้องแพ้ในเกมนี้อย่างปวดใจ ซึ่งมันกลายเป็นชัยชนะครั้งแรกของทีม "ฟ้า-เหลือง" ที่มีต่อผู้มาเยือน ผมดูๆ แล้วคนที่ปวดใจที่สุดคงหนีไม่พ้น พลาตินี่ ที่น่าจะคิดในใจหลังดูชาติตัวเองแพ้ว่า "นี่ขนาดหนีโปรตุเกสมาแล้วนะ!"
นี่ก็เป็นนักเตะที่ทำเสียจุดโทษบ่อยเกิ๊นนน แถมวันนี้โดน 2 เด้งด้วยใบแดงใบนี้
คนที่จะซวยน่าจะเป็น ริเบรี่ นักเตะตาอยู่ของรางวัลบัลลงดอร์ ที่จะประกาศกันในวันที่ 13 มกราคมปีหน้า เพราะว่าเกิดทีมชาติของเขาไม่ได้ไปบอลโลกขึ้นมา ดีไม่ดี อาจจะพลาดรางวัลนี้ไปอย่างเจ็บปวด ก็เป็นได้! (เลียนแบบซาวนด์ในคนอวดผี)
แต่เดี๋ยวก่อน! คุณผู้อ่านทุกๆ ท่าน นี่มันยังเป็นแค่นัดแรกครับ ในวันอังคารนี้ (19 พ.ย.) จะทำการแข่งขันในนัดที่ 2 กัน โดย โปรตุเกส จะออกไปเยือนทัพ "ไวกิ้ง" บ้าง ส่วน ฝรั่งเศสจะได้แก้ตัวในบ้าน ซึ่งคนหัวเราะทีหลังและดังกว่า อาจจะเป็น 2 บิ๊กบอสแห่งวงการลูกหนังก็ได้ ถ้าผลมันพลิกจากเกมแรกโดยสิ้นเชิง
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า ข้อความที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ได้เอนเอียงหรือเขียนด่าทีมโปรดของใครแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพียงกระแสขำๆ ที่ผมตามน้ำมาก็เท่านั้นนะครับ ^^
P.D.
