โฆษกม็อบโต้! ตำรวจถูกซ้อม เพราะพกปืนเข้าเขตชุมนุม
(17 พ.ย.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกเวทีต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม เปิดเผยถึงกรณีที่การ์ดของเวทีชุมนุมไปทำร้ายร่างกาย ร.ต.ต.จิระ แจ่มศรีจันทร์ และ ด.ต.สำเริง ฤกษ์งาม จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อ 15 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ข้อเท็จจริงคือการ์ดไปพบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน ไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจหรือเป็นใคร อีกทั้งยังพกปืนเข้ามาในเขตพื้นที่การชุมนุม การ์ดจึงพยายามจะเจรจาเข้าไปพูดคุย และให้มาลงบันทึกหมายเหตุไว้ที่เต๊นท์อำนวยการดูแลความเรียบร้อยของเวที แต่ชายทั้งสองที่มาทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจกลับขัดขืน ไม่ยินยอม กระทั่งมีเหตุกระทบกระทั่งทำร้ายกัน
"ผมตั้งข้อสังเกตว่าหากตำรวจจะเข้ามาดูแลประชาชน ทำไมไม่แสดงตัว แต่ยังมาพกอาวุธอีก ก็ต้องเข้าใจการ์ดด้วยเพราะต้องดูแลประชาชน แต่หากตำรวจต้องการดำเนินคดีก็ให้ประสานมายังเวทีได้ อีกทั้ง ขอบอกไว้ว่าเรายินดีให้ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลประชาชนผู้ชุมนุมร่วมกัน แต่ขอให้มาแสดงตัวอย่างถูกต้อง ไม่ใช่มาหลบๆ ซ่อนๆ" นายเอกนัฎ กล่าว
นอกจากนี้ยังเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน 310 ส.ส.ที่ลงมติเห็นชอบกฎหมายนิรโทษกรรม โดยจะเดินหน้าล่ารายชื่อถอดถอนให้ครบตามกฏหมาย และ ให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 19 พ.ย.นี้ ซึ่งในวันจันทร์นี้ แกนนำทั้ง 9 คน นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเดินทางไปแสดงตนเป็นผู้ริเริ่มรวมรวมรายชื่อถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ทั้งนี้หลังครบ 1 ล้านชื่อแล้วจะประกาศยกระดับ อารยะขัดขืนรัฐบาลขั้นสูงสุดทันที และมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้
ส่วนการที่ รัฐบาลกล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงแกนนำว่ามีความอ่อนแอลง ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง สังเกตได้จากวันที่ประกาศจะตั้งศาลประชาชน มีคนมาร่วมชุมนุมกับเราเกือบ 2 แสนคน และล่าสุดที่ประกาศยกระดับก็มีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ขอยืนยันว่าพวกเราแรงดี แรงไม่มีตก ขอให้รัฐบาลหยุดบิดเบือนความจริงด้วย