นิคมปัดรับเงินคว่ำร่างย้ำไม่รับอำนาจศาลปมที่มาส.ว.

ถกวุฒิสภา ยังไม่เข้าสู่วาระพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขณะ 'นิคม' ปัดรับเงินคว่ำร่าง ย้ำ ไม่รับอำนาจศาล ปมที่มา ส.ว. หวังเป็นธรรม

บรรยากาศการประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญทั่วไป ล่าสุด ยังไม่เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวปฏิเสธรับเงินให้คว่ำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แล้วเปิดทางให้กลับไปใช้ร่างเดิมของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ การพิจารณาวันนี้ จะเปิดให้สมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติอภิปราย จนถึงเวลา 22.00 น. หากไม่จบ ได้เตรียมนัดประชุมพรุ่งนี้อีก 1 วัน

นอกจากนี้ ประธานวุฒิสภา ยังย้ำว่า ไม่ขอรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะตัดสินในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. เพราะตนเองไม่ได้เซ็นสนับสนุนร่าง พร้อมเชื่อว่า ศาลจะให้ความเป็นธรรม ในการหาทาง
ออกประเทศ ส่วนการชุมนุมของมวลชนหลายกลุ่มในขณะนี้ ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในเหตุผล อย่าขัดแย้งจนนำไป
สู่การใช้ความรุนแรง

 

'ไพบูลย์'ยันยื่นศาลตีความร่างกู้2ลล.แน่ถ้าไม่แก้ม.6

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การประชุมวุฒิสภาในวันนี้ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ทางประธานกรรมาธิการ เสนอให้แก้ ม.3  โดยให้นิยามคำว่า โครงการ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเพื่อไม่ให้นำเงินไปใช้โดยไม่อยู่ในกรอบวัตุประสงค์ ส่วน ม.6 นั้น ตนเองเป็นผู้เสนอ อยากให้ตัดคำว่า ไม่ ออก เพื่อต้องการให้เป็นเงินคงคลัง และต้องการให้ดำเนินตามวิธีการของงบประมาณ เพื่อความโปร่งใส และจะไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ม.169 ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลด้วย

ทั้งนี้ หากสมาชิกวุฒิสภาไม่เห็นด้วยกับการปรับแก้ ทางกลุ่ม 40 ส.ว. และฝ่ายค้าน ก็จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ ในระหว่างนำขึ้นทูลเกล้าฯ หากขัดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ตนเองยังเสนออีก 1 มาตรา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสกับการดำเนินการ โดยขอให้ประชาชนที่เสียภาษี จำนวน 10 คนขึ้นไป สามารถยื่นคำร้องต่อศาลปกครองได้ หากพบว่าร่างดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคาดว่าการประชุมวันนี้ มีสิทธิ์จบวาระ 3

 

'คำนูณ' ขอคำนึงเม็ดเงินร่างกู้ 2 ลล.รอบคอบ

บรรยากาศการประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญทั่วไป เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ 2 ล่าสุดเข้าสู่วาระการพิจารณาแล้ว โดย นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ที่สงวนคำแปรญัตติ ได้อภิปรายเป็นคนแรก ว่า การกู้เงินต้องคำนึงถึงเม็ดเงินที่จะนำมาบริหารจัดการอย่างรอบคอบ ซึ่งเห็นว่า กระบวนการเสนอร่างของรัฐบาล ที่ให้สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติเพียงครั้งเดียว แล้วอนุญาตให้สามารถใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมหาศาล เกือบเท่ากับงบประมาณรายจ่ายประจำปีทั้งปี อีกทั้งการทำสัญญาเงินกู้แต่ละโครงการ ยังไม่มีผลบริบูรณ์

และส่วนตัวไม่ได้คัดค้านการกู้เงิน แต่ขอให้หยุดการใช้กฎหมายพิเศษมากู้เงิน เพื่อไม่กระทบกับสถานะทาง
การเงินการคลัง ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้รัฐบาลได้กู้เงินในระบบงบประมาณปกติ

 

ส.ว. ยังสลับกันอภิปรายร่างกู้ 2 ลล. ต่อเนื่อง

บรรยากาศการประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญทั่วไป เพื่อร่างพระราชบัญญัติ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน
เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระ 2  ล่าสุด สมาชิก
วุฒิสภา ที่สงวนคำแปรญัตติ ยังสลับกันอภิปรายอย่างต่อเนื่อง โดย นายตวง อันธะไชย ส.ว.สรรหา ในฐานะ
กรรมาธิการเสียงข้างน้อย อภิปรายว่า ไม่ควรเน้นการพัฒนาด้านคมนาคม เพียงอย่างเดียว แต่ควรพัฒนา
เรื่องการสร้างศักยภาพด้านการศึกษาของไทย เพราะสิ่งสำคัญในการพัฒนาด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น การกู้เงินมาสร้างถนน รถไฟฟ้าความเร็วสูง ไม่ได้มีหลักประกันว่า ประเทศจะเจริญก้าวหน้า

สำหรับ กรอบเวลาเบื้องต้น กำหนดไว้ถึงเวลา 22.00 น. หากไม่จบ จะนัดพิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้