8องค์กรจับมือทำแก้มลิงหนองเลิงเปลือยเพื่อในหลวง

8 หน่วยงานพัฒนาจับมือทำโครงการแก้มลิงหนองเลิงเปือย สนองพระราชดำริ

วันนี้ 18 พ.ย.2556 ได้มีการแถลงข่าว การจับมือกันของ 8 หน่วยงานพัฒนาเพื่อร่วมดำเนินโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อที่จะแก้ปัญหาของประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหน้าฝน และขาดแคลนน้ำในการทำการผลผลิตในหน้าแล้งและยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การดำเนินการดังกล่าวคือ การขุดลอกหนองเลิงเปือยและซ่อมแซมฝายบริเวณ ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้มีการดำเนินการทำอ่างเก็บน้ำมา ตั้งแต่ปี 2553 และเกิดการตื้นเขิน จนนำมาสู่ปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้งทุก ๆ ปี

ในการดำเนินการขุดลอกหนองเลิงเปือยครั้งนี้ นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระราชดำริการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเป็นปัจจัยการผลิตของพื้นที่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จนเกิดเป็นโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำกระจายอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคกว่า 3,031 โครงการ และอยู่ในภาคอีสานถึง 1,115 โครงการ อยู่ใน จ.กาฬสินธุ์ ถึง 39 โครงการ และโครงการแก้มลิงหนองเลิงเปือย ก็อยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์

ด้าน  ดร.รอยล จิตรดอน เลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชี้ว่า การพัฒนาขุดลอกแก้มลิงหนองเลิงเปือยนั้น จะเน้นถึงเรื่องการขุดลอกตามหลักวิชาการ ว่าด้วยการขุดลอกตะกอนและสร้างคลองดักตะกอนที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับการไหลของน้ำทางธรรมชาติและการไหลของน้ำในหน้าฝน รวมไปถึงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกัน  รวมไปถึงการป้องกันการระเหยของน้ำ เพราะโดยธรรมชาติอัตราการระเหยของน้ำในภาคอีสานมีค่อนข้างสูง โดยทั้งหมดนั้นก็เพื่อตอบสนองการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ ปีละ 2 ครั้ง คือในช่วงฤดูฝน เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วง และหน้าแล้งเพื่อรองรับน้ำหลากจากเขื่อนลำน้ำปาวไว้ใช้

ขณะที่ กองทัพบก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้อธิบายถึงการขุดลอกและดักตะกอนว่า ได้มอบหมายให้ทหารช่างของกองทัพภาคที่ 2 เป็นหน่วยงานรับผิดชอบทั้งด้านอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือและกำลังพล โดยได้มีการประเมินว่า จะต้องขุดดินออกจากหนองเลิงเปือย ประมาณ 5,000,000 ลูกบาศก์เมตร

ในส่วนของ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้จะทำให้เห็นว่า ในหลวงของเรา แม้ว่าจะอยู่ในช่วงของการรักษาพระอาการประชวร ก็ยังทรงงานอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นที่ได้ทรงพิจารณาและมีพระราชดำริให้ดำเนินการรับโครงการแก้มลิงหนองเลิงเปือย เพื่ออยู่ในโครงการพระราชดำริตามที่ชาวบ้านได้ถวายฎีกามา นอกจากนั้น ม.ร.ว.ดิศนัดดา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการขุดลอกตะกอนดินเสร็จแล้ว ทางมูลนิธิปิดทองหลังพระ ก็จะเชื่อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าไปทำงานพัฒนา ภายใต้แผนพัฒนาอันเดียวกันคือ ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง "ระเบิดจากข้างใน"  ในการดำเนินการโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย ถ้าสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มสภาพ ก็จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ได้ถึง 5,827 ไร่

สำหรับ 8 หน่วยงาน ที่ร่วมกันดำเนินงานในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ(กปร.) 2.มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ 3.กองทัพบก 4.กระทวงมหาดไทย 5.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์มหาชน) 8.สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานพระราชดำริ