เกาะติดคำตัดสินศาลรธน.!ตร.เข้มศาลตัดสินแก้รธน.

รอง ผบ.ตร. เผย เพิ่มมาตรการเข้ม เตรียมกำลัง รปภ. รอบพื้นที่ ศาล รธน. หากม็อบไม่เคลื่อน เชื่อไม่รุนแรง 'จารุพงศ์' หวัง ศาล รธน. ตัดสินแบบศาลโลก วินๆทุกฝ่าย ลดขัดแย้ง ด้าน เลขาศาล รธน. เชื่อผลตัดสินไม่แรงขอ ปชช.วางใจ

พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ดูแลฝ่ายมั่นคง เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีการตัดสินที่มาของ .สว. ประกอบกับในหลายพื้นที่มีการชุมนุมของหลายกลุ่มทั่วกรุงเทพมหานคร ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเพิ่มมาตรการการป้องกันเข้มขึ้น เน้นการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ทั้งนี้ การจัดกำลังเฝ้าระวังเข้มกว่า 4 กองร้อย ดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญ

ขณะที่มาตรการการป้องกันการเผชิญหน้าของ 2 กลุ่มที่สนับสนุน และคัดค้านการทำงานของรัฐบาลนั้น พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมแต่ละจุดนั้น มีการปักหลักชุมนุมที่ค่อนข้างห่างกัน หากไม่มีการเคลื่อนขบวน คาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น รวมทั้งยังไม่สามารถตอบได้ว่าการชุมนุมดังกล่าวจะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมในแต่ละจุดจะมีการปักหลักชุมนุมกันต่อเนื่องเพียงใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่งด้วย

 

จารุพงศ์ หวังศาล รธน. ตัดสินแบบศาลโลก ลดขัดแย้ง

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. อยากวิงวอน
ให้ทุกฝ่าย เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเฉพาะ คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับปมการแก้ไข
รัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของ ส.ว. ที่อาจจะเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง จึงอยากขอ หรือแนะนำให้
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดูการพิจารณาคดีของศาลโลก เรื่องเขาพระวิหารเป็นตัวอย่าง ที่ตัดสินแบบวินๆ ได้
ประโยชน์กันทุกฝ่าย เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง

อย่างไรก็ตาม นายจารุพงศ์ ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ประมาท และมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อเตรียม
รับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาด้วย

 

พท. ไม่ตั้งวอร์รูมดูคำตัดสินศาล รธน. มั่นใจ ทำถูกต้อง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางพรรคไม่ได้มีการตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. แต่อย่างใด และไม่ได้มีการมอบหมายให้ทีมกฎหมาย หรือใคร ติดตามการพิจารณาของศาลเป็นพิเศษ โดยเชื่อว่า ศาลจะวินิจฉัยตามข้อเท็จจริง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา โดยตรง ไม่มีการกระทำผิด ล้มล้างการปกครอง ที่ฝ่ายค้านกล่าวหา

ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับประเทศ ในการเดินหน้าพัฒนาต่อไป หลังจากมีปัญหาขัดแย้งกันมายาวนาน

 

ศาล รธน. พร้อมอ่านคำวินิจฉัยที่มา ส.ว.11.00 น. วันนี้

วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. ว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง หรือไม่

ซึ่งกระบวนการพิจารณานั้น นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเริ่มประชุมเวลา 09.30 น. โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะแถลงอภิปรายด้วยวาจา และลงมติเพื่อให้ได้เสียงข้างมากในการทำคำวินิจฉัย จากนั้นจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ในเวลา 11.00 น.

ทั้งนี้ ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ จำนวน 1 จอ โทรทัศน์และเครื่องเสียง เพื่อถ่ายถอดภาพและเสียงการออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้กับประชาชนที่จะเดินทางมาฟังคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญด้วย

 

ศอ.รส.จัดตร.4กองร้อยคุมรอบศาลรธน.เช้านี้

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงเช้าวันนี้ ก่อนที่จะมีการอ่านคำวินิจฉัยคำร้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งบริเวณด้านหน้ายังคงมีการปักหลักชุมนุมคัดค้านของกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย และมีกลุ่มที่คัดค้านอื่นๆ ซึ่งได้เดินทางมาแล้ว อาทิ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ปักหลักอยู่ริมถนนบริเวณทางเข้า ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุน ยังไม่พบว่ามีการเดินทางเข้ามาแต่อย่างใด

ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัย เป็นไปอย่างเข้มงวด มีกำลังตำรวจชุดปราบจลาจลและชุดควบคุมฝูงชน จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 4 กองร้อย กระจายกำลังทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านในอาคารศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีการนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางขึ้นชั้น 2 และหน้าประตูทางเข้าศาลรัฐธรรมนูญ ห้ามรถยนต์ที่ไม่เกี่ยวข้องจอดบริเวณลานด้านหน้าประตู ส่วนบุคคลที่เข้าไปภายใน ต้องผ่านการตรวจค้นและแลกบัตร พร้อมจัดรถคุมผู้ต้องขังไว้ สำหรับปิดทางเข้า-ออก กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในเวลา 10.00 น. วันนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจและแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม ประชุมหารือแนวทางการชุมนุมโดยสันติ ป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันด้วย

 

นายกฯ เกาะติดม็อบและศาลรธน.ตัดสินแก้ที่มา ส.ว.

ความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ช่วงเช้าวันนี้
เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบฯ ตามปกติ โดยจะมีการประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมในทุกวัน โดยเฉพาะการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงเช้าของวันนี้ด้วย

ขณะที่ช่วงเย็น นายกรัฐมนตรี จะนำคณะตุลาการศาลทหาร เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ที่ ท้องพระโรงศาลาเริง วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

เลขาศาลรธน.เชื่อผลตัดสินไม่แรงขอปชช.วางใจ

นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. โดยยืนยันว่า ไม่กดดันและไม่กังวลในการวินิจฉัยคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. หลังกลุ่ม 312 ส.ส. และ ส.ว. ออกมาประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ อยากให้สังคมเชื่อมั่นผลคำตัดสินจะออกมาไม่แรง ซึ่งศาลฯ จะวินิจฉัยด้วยสันติวิธี จึงขอให้ประชนสบายใจ

ขณะเดียวกัน อยากฝากไปยังทุกฝ่ายว่า ขอให้มั่นใจการทำหน้าที่ขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง หรือนำไปสู่ความรุนแรง และยืนยัน หลังคำวินิจฉัยของคดีดังกล่าว เชื่อว่าสังคมจะกลับมาสู่ความสงบเรียบร้อย

 

ตุลาการศาลรธน.ทยอยเข้าศาลแล้ว-รปภ.เข้มทุกจุด

บรรยากาศที่ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ทยอยเดินทางมาถึงแล้ว โดยในวันนี้จะมีเริ่มประชุม เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาคำร้องการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. และจะมีการออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยในเวลา 11.00 น. ขณะที่การรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นไปอย่างเข้มงวดทั้งด้านในและด้านนอกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงบริเวณลานเอนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ที่มีการติดตั้งโทรทัศน์และเครื่องเสียง เพื่อถ่ายถอดภาพและเสียงการออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอย่างเข็มงวดเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่จะเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัย สามารถแลกบัตรประชาชนกับทางเจ้าหน้าที่ได้ที่โต๊ะลงทะเบียน บริเวณทางเข้าศาลรัฐธรรมนูญ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 โดยจะมีการอ่านคำวินิจฉัยที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3